10 Ideas From Business Foundation 101

สำหรับการที่สามารถเข้าใจธุรกิจอย่างถ่องแท้ ของ Business Foundation โดย มี 3 แบบ การออกไอเดียในธุรกิจที่แปลกใหม่ การบริหารธุรกิจให้อยู่รอดจนถึงปัจจุบัน และการขายสินค้าที่มีอยู่ให้ดีขึ้นกว่าเดิมจึงเป็นเรื่องสำคัญ ดังนั้นการเข้าใจแนวทางขั้นพื้นฐานสำหรับทุกธุรกิจจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก


Business Foundation 101

  1. Business Foundation
  2. The Core Models
  3. Model 1 : Million Dollar Weekend
    1. Find a Problem
    2. Create a Solution
    3. Spend $0 validate your ideas
    4. Case 1 : What You Create vs What Customers Want
      1. picture 1 : Two Non-Overlapping Circles
      2. picture 2 : Two Little Intersect Circles
      3. picture 3 : Overlapping Circles
    5. Case 2 : Iphone
  4. How to validate Idea? (Pre-Selling)
    1. Case : Pre-selling Surfboard
  5. Scarce Resource
  6. Marketing Funnel
    1. Calculation of Awareness , Consideration and Conversion
  7. How to increase the Conversion Rate?
  8. Model 2 : Small Business Flight Plan
    1. Business Operates
    2. Process of Airplane
  9. Model 3 : The Brain Audit
    1. Problem
    2. Solution
    3. Target profile
    4. Objection
    5. Testimonials
    6. Risk Reversal
      1. Case 1 : Mini Bootcamp
      2. Case 2 : Ikea
    7. Uniqueness
      1. Case : DataRockie
  10. The Key Message

Business Foundation

สำหรับการเข้าใจธุรกิจอย่างถ่องแท้จำเป็นที่ต้องรู้ Learning Model จากบทความ https://chayanonboo.com/2025/04/07/5-methods-of-learning-model-101/ เพื่อที่มีจะ Requirement ในการเรียนรู้พื้นฐานของการสร้างธุรกิจ

“There is no skilled “Business

A Business
  1. ธุรกิจของจริงในการทำงานจริงเกี่ยวกับ 8 Skills นี้ดังรูป ด้านบน
  2. การที่สามารถรันธุรกิจได้ดี ต้องมี Back End เป็นแผนก IT จะช่วยได้เยอะ
  3. ถ้าเปิดร้านขายของ ข้างหน้าร้านต้องมี Point of Sale จุดที่จะชำระเงิน
  4. ถ้าสร้าง Digital Product ควรมี Website

ถ้าอยากจะทำ One Person Business ควรสามารถรวมหลายสกิลเพื่อธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในปัจจุบัน


The Core Models

The Core Models

3 Model นี้จะช่วยเปิดทางการทำ Business ให้กับทุกๆคนได้

CreatorMethod
Noah Kaganuse for create business
Donald Milleruse for business administration
Sean D’Souzasell product better than before
  • การที่จะเริ่มทำ Business อะไร ก็ควร Update องค์ความรู้ให้ทันต่อยุคสมัยด้วย
  • เช่น สิ่งที่คนอื่นเคยมาสอนทุกคนว่าเคยทำอะไรมาบ้าง แต่สิ่งเหล่านั้นเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีต แต่สิ่งที่ทำในอดีตไม่การันตีว่าทำในปัจจุบันแล้วจะ Work ในอนาคต
10 Years AgoNow
No AIAI
Blackberry ที่หลายปุ่มIphone ที่มีปุ่มกดบนหน้าจอน้อยมาก

Model 1 : Million Dollar Weekend

Million Dollar Weekend

ข้อวคามสำคัญจากหนังสือ Million Dollar Weekend

  • สำหรับ Highlight สำหรับหนังสือเล่มนี้ที่ Noah Kagan เคยบอกไว้ว่า “วันเสาร์ – อาทิตย์ที่เป็นเวลาว่างคนเราสามารถเงิน 1 ล้านได้เลย”
  • เสาร์-อาทิตย์ มี 52 สัปดาห์ ถ้าสามารถคิดไอเดียที่ดีจาก 52 สัปดาห์ไปทำประโยชน์ได้ จะมีโอกาสสร้างธุรกิจล้านเหรียญมาแล้ว ประมาณ 8 ธุรกิจสำเร็จมาแล้วของ Noah Kagan

Framework ของหนังสือ Million Dollar Weekend มีอยู่ 3 Steps

Framework of Million Dollar Weekend

Find a Problem

ส่วนใหญ่หลาย Business ต้องเริ่มมาจากการรู้จักปัญหาเราอยากจะแก้ให้เจอ

  • แล้วหลังจากนั้นก็ไปเรียนรู้ Skill ต่างๆเพื่อที่จะแก้ปัญหาเหล่านั้น
  • โดยที่ปัญหานั้นต้องใหญ่พอแล้วมีคนที่มีปัญหาเหล่านั้นเยอะพอ แล้วมีคนที่ยังหาทางแก้ปัญหานั้นไม่เจอ

Create a Solution

  • นำปัญหาที่คนเหล่านั้นเจอ มาวิเคราะห์แล้วหาทางที่ช่วยแก้ปัญหาให้คนเหล่านั้นให้ได้
  • ไม่ควรเป็นปัญหาที่มีคนเคยแก้ปัญหาเหล่านั้นได้มาก่อน

Spend $0 validate your ideas

  • การไม่ใช้เงินในการสร้างธุรกิจถือเป็นการทดสอบ Ideas ว่า Problem กับ Solution ที่เราคิดออกมามันดีและเหมาะสมมั้ย
  • ถ้า Problem กับ Solution เหล่านั้นดีต่อลูกค้าแล้วลูกค้าสนใจให้เงินกับสินค้าหรือบริการ คือ Pre-selling

Case 1 : What You Create vs What Customers Want

What You Create vs What Customers Want
CircleDefinition
Blueสินค้าหรือบริการที่เราผลิตขึ้นมา
Whiteสิ่งที่ลูกค้าอยากได้

picture 1 : Two Non-Overlapping Circles

โดยรูปซ้ายสุดจากรูป What You Create vs What Customers Want ที่คนหลายคนเจอ คือ เราสร้างผลิตภัณฑ์หรือบริการบางอย่างแล้วไม่มีคนอยากได้

สิ่งที่ไม่ควรทำ

  • การซื้อโฆษณา facebook เยอะมาก เพื่อที่หาคนที่อยากซื้อผลิตภัณฑ์หรือบริการเรา ซึ่งบางทีคนหาที่อยากซื้อผลิตภัณฑ์หรือบริการไม่ได้
  • ค่า Ad facebook เราก็แพง เพราะ facebook บอกว่า หาคนที่อยากซื้อของไม่เจอเหมือนกัน ไม่มีใคร Engagement กับโฆษณาที่เรายิงไป

picture 2 : Two Little Intersect Circles

  • โดยรูปกลางจากรูป What You Create vs What Customers Want เริ่มมีการ overlap กัน มีลูกค้าอยากได้สินค้า แต่ไม่เยอะพอที่จะทำให้เราอยู่รอดในธุรกิจนั้นๆ

picture 3 : Overlapping Circles

  • สินค้าหรือบริการที่สร้างขึ้นมาตอนนี้มีคนรออยากได้เยอะมากจนสามารถสร้างธุรกิจให้เราได้
  • ต้องให้สินค้าหรือบริการที่สร้างขึ้นมาแล้วตอบโจทย์กับที่เราอยากผลิตและลูกค้าอยากได้จะต้อง Overlap กัน

Case 2 : Iphone

Case Iphone
TypeQuantity
Your Offer (Price)300
Customers1,000
Potential Revenue300,000

เราจะรู้ได้ไงว่า คนทั้ง 1,000 คนจะซื้อของเราจริงๆ ต้องทำการ pre-selling ถึงจะรู้


How to validate Idea? (Pre-Selling)

Pre-Selling

วิธีการที่เราจะสร้าง Idea ที่ถูกต้องให้เรา คือ การขอให้คนจ่ายเงินให้เรา

  1. เช่น เรามีหนังสือเล่มใหม่ แต่ข้างในยังไม่มีเนื้อหา แล้วสร้างหนังสือจำลอง หนังสือเล่มนี้จะสอน mental model ทุกคน
  2. สร้างหนังสือจำลอง Pre-selling เล่มละ 300 บาท ได้ 100 คนโดยขายราคาถูกกว่า แล้วหลังจากเขียนหนังสือออกมาขายอีกทีก็เพิ่มเป็น 400 บาท
  3. เมื่อได้เงินแล้ว จะบังคับให้เราเขียนและออกหนังสือเป็นเล่ม

Pre-Selling เป็นการสร้างความสนใจและความต้องการในสินค้าหรือบริการที่จะเปิดตัวในอนาคต

People WantSample
Highเราก็อาจจะนำมาขายในครั้งต่อๆ ไป
Lowเปิดขายแค่รอบเดียว รอบต่อไปอาจจะไม่มีแล้ว

Case : Pre-selling Surfboard

Pre-selling Surfboard
  • สมมุติเราสร้าง Surfboard 3 เดือน ข้อดี โต้คลื่นได้ น้ำหนักเบา เท้าไม่ลอยน้ำ
  • มี 100 Surfboard แล้วขายที่ชายหาดแล้วจะขาย Surfboard แล้วไม่มีลูกค้าที่รอเล่น Surfboard เลย ก็ขาย Surfboard ไม่ได้
IdeasDefinition
Goodถ้ามีคนเล่น Surfboard แสดงว่าไอเดียนี้ดี
Badหาก Surfboard ขายไม่ได้ ธุรกิจไปไม่รอด ก็ต้องล้มไอเดียนี้ แล้วหาไอเดียใหม่ๆ

Scarce Resource

Scarce Resource
  • Resource และ Community ที่ขาดแคลนที่สุดในช่วงนี้ คือ Attention
  • หากอยากขายของได้จำเป็นต้องมี Attention จากคนก่อน เพราะถ้าไม่มีคนสนใจก็จะไม่มีคนซื้อ
  • วิธีที่จะทำให้ลูกค้าสนใจเราคือ ต้องสร้าง Marketing Funnel

Marketing Funnel

Marketing Funnel คือ โมเดลที่แสดงถึงขั้นตอนการเดินทางของลูกค้าตั้งแต่เริ่มรับรู้แบรนด์ (Awareness) ไปจนถึงตัดสินใจซื้อสินค้าหรือบริการ (Consideration/Conversion)

Marketing FunnelDefinition
Awarenessการทำให้ 100 คนในกลุ่มเป้าหมาย รับรู้ของแบรนด์
Considerationมี 40 คนเริ่ม พิจารณาแบรนด์หรือกำลังสนใจแบรนด์
Conversionมี 5 คนเริ่มโอนเงินเข้ามา เพราะอยากซื้อสินค้าแบรนด์

Awareness ต้องมี Content เพิ่งดึงดูดให้คนรู้จักเราด้วย


Calculation of Awareness , Consideration and Conversion

Calculation
RateCalculation
View Rate40/100 = 40%
Consideration for Conversion Rate5/40 = 12.5%
Conversion Rate5/100 = 5%

Definition สำหรับอัตราส่วนของเกณฑ์ด้านบน

  1. View Rate คือ มีคนมาดูแบรนด์ 40%
  2. Consideration for Conversion Rate คือ จากคนที่ดู live ทั้งหมด 40 คนมีซื้อ 5 คน เราจึงได้คนซื้อเทียบคนดู live ได้ 12.5%
  3. Conversion Rate คือ 5% ใน 100 คนเห็นมีแค่ 5 คนที่ซื้อสินค้า = 5%

How to increase the Conversion Rate?

How to increase the Conversion Rate?

ถ้าเราอยากหาเงินได้มากขึ้นจากแบรนด์ เราควรปรับจากส่วนไหนของ Marketing Funnel

  1. เราทำให้คน Attention ต่อแบรนด์ได้มากขึ้น ก็จะเพิ่ม Awareness ต่อแบรนด์เราได้ดีขึ้น
  2. Consideration พิจารณาแล้วว่าแบรนด์เราจะดีกว่าแบรนด์อื่นยังไง
  3. เพิ่ม Conversion โดยการเล่าเรื่องเพื่อให้สามารถขายสินค้าได้ หรือ ราคาสูงไปอาจจะต้องลดราคาสินค้าหรือเปล่า
  4. Awareness สามารถปรับได้ง่ายที่สุด

Content หรือ Communication เป็น First principle ในการสร้างธุรกิจเพราะถ้าทุกคนให้คนสนใจแบรนด์ไม่ได้ก็ไม่มีใครรู้จักสินค้าของแบรนด์เหล่านั้น


Model 2 : Small Business Flight Plan

Small Business Flight Plan

Small Business Flight Plan ในการทำธุรกิจแบบนี้ต้องเข้าใจว่าแต่ละระบบทำงานร่วมกันยังไง

  • โดยบอกว่า ธุรกิจสามารถทำงานเหมือนเครื่องบินเลย

Business Operates

Business Operates

เปรียบเหมือนกับการนั่งเครื่องบิน เป้าหมายของเครื่องบินหลัก คือ นั่งเครื่องบินโดยไม่ตก

เช่นเดียวกัน โดยทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จโดยจำเป็นมี 6 องค์ประกอบดังนี้

PlaneBusiness
CaptainLeadership
BodyOverhead
WingsProduct / Service
Left EngineMarketing
Right EngineSales
FuelCash Flow

Process of Airplane

Process of Airplane
  1. Leadership กำหนดจุดมุ่งหมายของทิศทางและธุรกิจว่าไปทางไหนบ้าง
  2. Overhead ค่าจ้างพนักงาน ค่าเช่าสถานที่ ค่าใช้จ่ายในธุรกิจ
  3. Product/Service and Marketing and Sale ทำให้ธุรกิจสามารถมีแนวทางการพัฒนาขึ้นมาเรื่อยๆได้
  4. Cash Flow คือเงินที่อยู่ในธุรกิจ เก็บเงินสดเอาไว้ ครบมีไว้สำหรับ 1-2 ปี

ไม่ว่าก็จะเป็นการขาย การทำ Product และออก Campaign ใหม่ๆ

  • แต่ถ้าปัจจุบัน หากยังไม่มีเงินพอ ความรู้ที่เรามีจะช่วยให้ทุกคนหาเงินได้มากขึ้นในอนาคต

Model 3 : The Brain Audit

The Brain Audit

The Brain Audit เป็นการมุ่งเน้นไปที่การทำความเข้าใจกระบวนการตัดสินใจซื้อของลูกค้า

โดย Sean D’Souza นำเสนอแนวคิดว่าลูกค้าจะ ซื้อ ก็ต่อเมื่อ กระเป๋า หรือปัจจัยสำคัญ 7 ประการในความคิดของพวกเขาได้รับการ ตรวจสอบ และ จัดการ อย่างเหมาะสม

Seven Bags
  • เช่นเดินทางจากเที่ยวบิน แล้วรอรับกระเป๋าทั้งหมด 7 ใบ ถ้ากระเป๋ามาไม่ครบก็ต้องรอจนกว่าจะได้กระเป๋าครบ
  • Focus ที่ Marketing กับ Sales เลย ทำยังไงให้ลูกค้ามาซื้อของเรา

ถ้าอยากทำ Marketing ได้ดี แล้วมีลูกค้ามาซื้อของเราเยอะๆ ต้อง 7 องค์ประกอบนี้

The Brain Audit with 7 Element

Problem

ควรเริ่มต้นด้วยค้นหาปัญหา เพราะว่าสมองมนุษย์จะดึงดูดคำว่า ปัญหาก่อน เช่น ปัญหาผมหยิก


Solution

ตามมาด้วยวิธีการแก้ปัญหา เช่นควรมี Sunsilk ช่วย


Target profile

ต้องรู้ว่า เราสร้าง Solution ให้ กลุ่มเป้าหมายกลุ่มไหน ถึงจะเหมาะสมกับ Problem ที่มี ลูกค้า ถึงจะพอใจ


Objection

ต้องคิดมีปัจจัยอะไรบ้างที่จะทำให้ลูกค้ากลุ่มนี้มีข้อโต้แย้งกับเรา เช่น ยาสระผมมีใส่สารเคมีแปลกๆ กับมาเราหรือไม่

  • เช่น ตอบได้ว่ามาจากวัตถุดิบธรรมชาติ

Testimonials

  • สามารถให้ลูกค้าทดลองใช้จริงว่า สินค้าเหล่านั้นดีมั้ย
  • มีตัวอย่างว่าคนใช้แล้ว Work มั้ย สามารถตอบตัวอย่าง Objection ได้
  • การให้ Testimonials (ลูกค้าทดลองใช้)ตอบจะดีกว่า เพราะเป็นตัวอย่างของผู้ใช้ โดยการหาลูกค้าจริงมาตอบจะได้ความน่าเชื่อถือสูงกว่า

Risk Reversal

Risk Reversal
  • คนส่วนใหญ่จะไม่ชอบความจริง พยายามหาอะไรที่การันตีความแน่นอน
  • จริงมีการการันตีโดยการให้ลองใช้ฟรีแบบ Free Trial
  • เช่น Youtube ให้ลองใช้ Youtube Premium ฟรี 14 วัน แล้วถ้าดีค่อยให้ใช้ต่อ

Case 1 : Mini Bootcamp

  • คอร์สเรียนฟรีแบบ Mini Bootcamp เพื่อลดความเสี่ยงให้นักเรียนได้ โดยการให้นักเรียนประเมินครูสอนในช่วงเวลาที่เรียนว่าครูคนนั้นสอนดีหรือไม่ดี

ข้อเสียคือถ้าอะไรได้มาฟรี คนก็ไม่ค่อยเห็น Value แล้วเรียนเช่น คอร์สเรียนนี้ มีคนติดตาม Facebook 100,000 คน แต่มีคนมาเรียนแค่ 1,000 คน


Case 2 : Ikea

Description of Product
  • Ikea จะมีข้อมูลให้อ่านว่า อุปกรณ์ที่ขายเหล่านี้มีความเสี่ยงอะไรบ้าง สามารถใช้ได้นานกี่ปี และสามารถขนส่งได้หลากหลายแบบ เพื่อลดความเสี่ยงให้ลูกค้าซื้อ
  • โดยสามารถจ่ายเงินเพิ่ม 7-10% เพื่อให้พนักงานไปต่ออุปกรณ์ให้ที่บ้าน

การที่แบรนด์ขายอุปกรณ์มีการประกันภัยความเสี่ยงด้านของให้ลูกค้า จึงทำให้ลูกค้ารุ้สึกมั่นใจใน Ikea


Uniqueness

Uniqueness

Uniqueness คือสิ่งที่เราสร้างขึ้นมา ไม่ใช่สิ่งที่เรามี

เราควรรู้ว่าเราแตกต่างกับคนอื่นๆยังไงบ้าง มีไอเดียที่ไม่เหมือนใครแล้วต้องสร้างไอเดียนี้ขึ้นมาเอง


Case : DataRockie

  • แอดทอยไม่เคยพูดเก่งแบบนี้ ก่อนจะมีเพจ DataRockie เมื่อ 10 ปีที่แล้ว แล้วก็ฝึกพูดเรื่อยๆ 10 ปีจนพูดได้คล่อง 2 ชม โดยไม่พัก
  • 10 ปีที่แล้วไม่มีความแตกต่าง ปัจจุบัน สบายๆ ย่อยเนื้อหาเก่ง พูดได้เข้าใจง่าย
  • การใส่หมวกจะเป็นจุดเด่น แม่แอดยศจำไม่ได้ว่าเป็นแอดทอยไปแต่งงานลูกตัวเองเพราะไม่ใส่หมวก
  • ความแตกต่าง แบบมีความหมาย เช่น ถ้าแอดทอยใส่หมวก แล้วนักเรียนไม่ให้คุณค่า สิ่งเหล่านั้นก็ไร้ความหมาย

เช่น ถ้าใส่หมวกเหลืองแล้วพูดไม่รู้เรื่อง ความแตกต่างนี้ไม่มีความหมายเลย

PrincipleAction
First PrincipleTeach Understand
Second PrincipleYellow Hat

The Key Message

The Key Message

สิ่งที่สำคัญในการช่วยให้สามารถเรียนรู้แล้วเข้าใจธุรกิจได้ดีขึ้นมีดังนี้

  1. เรียนรู้วิธีการเรียนรู้ แล้วเรียนรู้สิ่งที่คุณต้องการ เช่นอย่างเรียนรู้อุตสาหกรรมย่อยของธุรกิจ ก็ศึกษาความรู้ของธุรกิจนั้นเพิ่ม
  2. ไม่มีทักษะที่เรียกว่า “ธุรกิจ” เพราะหลายๆทักษะมาประกอบรวมกันเป็นธุรกิจ เช่น Strategy, Marketing, Sales, Finance, People, Operation, Promotion, IT/Tech
  3. อัปเดตแผนที่ของคุณอย่างต่อเนื่อง หรืออัปเดตเพื่อเพิ่มเส้นทางชีวิตในการตัดสินใจทำธุรกิจให้ดีขึ้นจากข้อมูลที่ดีขึ้น
  4. การสะสมทักษะคือเคล็ดลับในการสร้างธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ ช่วยให้เชื่อมโยงข้อมูลได้ดีขึ้น
  5. แสวงหาแบบจำลองทางความคิดจากผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกนี้ โดยเรียนรู้จากคนที่ประสบความสำเร็จมาก่อน

หากสนใจสามารถรับชมคลิปเพิ่มเติมได้ที่ Link นี้

หวังว่าจะได้ไอเดียดีๆในการนำหลักการ Business Foundation ทั้ง 10 ข้อ เพื่อศึกษาหาไอเดียที่มีประโยชน์เต่อการการใช้ชีวิตประจำวัน เพื่อปรับปรุงเรียนรู้ธุรกิจได้เข้าใจอย่างถ่องแท้แล้วมีแนวทางใหม่ๆในปรับรูปแบบธุรกิจให้ดียิ่งขึ้น


Comments

2 responses to “10 Ideas From Business Foundation 101”

  1. Caleb Cheruiyot Avatar

    Wonderful ♥️

    Liked by 1 person

    1. Chayanon Boonthanom Avatar
      Chayanon Boonthanom

      Thank you

      Like

Leave a reply to Chayanon Boonthanom Cancel reply