Tag: Mental Model

  • 10 Ideas from Mental Model 101

    10 Ideas from Mental Model 101

    หากต้องการเข้าใจความจริงเกี่ยวกับโลกมากขึ้น บทความเกี่ยวกับเรื่อง Mental Model คือการช่วยสร้างกรอบความคิดที่ช่วยให้เราเข้าใจโลกรอบตัวและตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้เรามองเห็นภาพรวมและเชื่อมโยงสิ่งต่างๆ เข้าด้วยกัน การเรียนรู้และประยุกต์ใช้ Mental Model ที่หลากหลายจะช่วยเพิ่มความสามารถในการแก้ปัญหาและรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ ได้ดีขึ้น


    Mental Model

    1. Why do we need to learn about thinking?
      1. Thinking
      2. Thinking Method
      3. Sink a great ship
    2. Mental Model
    3. Model 1 : Map is not the Territory
      1. Each map has a specific purpose
      2. Case 1 : Driver vs Customer in Subway
      3. Case 2 : P/E Ratio
      4. Case 3 : Thinking Fast and Slow
    4. Model 2 : First Principles Thinking
      1. Case 1 : Real-Life Applications
      2. Case 2 : Money
      3. Case 3 : Think About Life
      4. Case 4 : Think About Learning
    5. Model 3 : Second-order Thinking
      1. Case 1 : Discount
      2. Case 2 : Junk Food
      3. Case 3 : Time Spent on Smartphone
    6. Model 4 : Probabilistic Thinking
      1. Case 1 : Probability
      2. Case 2 : Highlight Subjective belief
      3. Case 3 : Survival
    7. Model 5 : Inversion Thinking
      1. Case 1 : Make Decision
      2. Case 2 : Make Good health
      3. Case 3 : Think About Freedom
    8. Stoic Triangle
    9. Model 6 : Circle of Competence
      1. Case 1 : Expand Your Circle of Competence
      2. Case 2 : New Zealand
      3. Case 3 : Opinion
    10. Model 7 Statistics as Mental model
      1. Case 1 : Real life
      2. Case 2 : Relationship
      3. Case 3 : First Principles vs Statistics

    Why do we need to learn about thinking?

    Recommended Book : Think like a freak

    เพราะการที่เราคิดเยอะขึ้นจะส่งผลให้เรามี Idea และ Decision ที่ดีขึ้น


    Thinking

    George Bernand Shaw คนเคยพูดถึงเรื่อง Thinking ไว้ดังนี้

    Type of PersonDefinition
    คนส่วนมากคิดแบบจริงจังแค่ 2-3 ครั้งต่อปี
    คนส่วนน้อยคิดแบบจริงจัง 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ จะช่วยให้การดำเนินชีวิตดีขึ้น

    George Bernand Shaw เขียนบทวิจารณ์วรรณกรรมและสร้างโรงเรียนที่ School of economic

    หลังจากการศึกษาที่เรื่องการคิด ทำให้สามารถตกผลึกได้ว่ามีคำว่า Mental Model อยู่ด้วย


    Thinking Method

    Thinking Method

    Method

    1. การคิดที่ดีจะต้องทำให้เราตัดสินใจได้ดีขึ้น
    2. ยิ่งเราตัดสินใจแต่ละเหตุการณ์ย่อยได้ดีขึ้น ก็จะได้ชีวิตในแบบที่เราต้องการมากขึ้นเรื่อยๆ

    หากเข้าใจ Mental Model เพื่อให้เราเข้าใจเรื่อง Decision มากขึ้นแล้วสามารถไปอยู่ในจุด Life You Want มากขึ้น


    Sink a great ship

    Benjamin Franklin เคยกล่าวไว้ “แค่เรือมีรูรั่ว นิดเดียวสามารถทำให้เรือล่มได้เลย”

    Sink a Great Ship

    Sample Problem

    • การทำ Project อย่างนึง เวลาเราคิดงานบางอย่าง แล้วงานเหล่านั้นแสดงข้อผิดพลาดในกระบวนการคิด จะทำให้ Project ผิดพลาด

    ผลลัพธ์ที่มีโอกาสเกิดขึ้น

    1. มีโอกาสที่เราจะคิดพลาดแล้วเราไม่รู้ตัว จะทำให้เราเดินผิดทางได้เลย ถ้าเราไม่แก้ไข
    2. Mental Model จึงเกิดขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหาในเรามักคิดผิดพลาดในชีวิต

    Mental Model

    Mental Model หรือ “แบบจำลองความคิด” คือ กรอบความคิดหรือวิธีการที่เราใช้ในการทำความเข้าใจและตีความโลกรอบตัวเรา มันคือภาพจำลองที่อยู่ในสมองของเรา ซึ่งช่วยให้เราคาดการณ์และตัดสินใจเกี่ยวกับสิ่งต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

    • หนังสือหลายเล่มส่วนใหญ่มี Inspiration มาจาก Charlie Munger

    I believe in the discipline of mastering the best of what other people have figure out = เราสามารถศึกษาวิธีคิดจากคนที่ประสบความสำเร็จได้เลย

    Mental Model Book

    Mental Model คือกระบวนการคิดของเรื่องใดเรื่องหนึ่งให้เฉียบคมและดีขึ้น


    Model 1 : Map is not the Territory

    Map เป็นได้แค่ Representative ของ Territory เพราะ Map ไม่ได้สะท้อนโลกจริง เพราะ Map จะเป็นการสุ่มเพื่อแสดงส่วนที่สำคัญของแต่ละสถานที่จาก Territory เพื่อให้สามารถเดินทางไปได้ ส่วน Territory จะแสดงอาณาเขตทั้งหมดของโลก

    Map ใช้กระบวนการ Abstraction คือการตัดส่วนที่ไม่สำคัญออกจาก Territory

    Map is not the Territory
    TypeDefinition
    MapModel (Sample of The world)
    TerritoryReality (Population of The world)

    Each map has a specific purpose

    Map ที่เราสร้างขึ้นมาในหัว จะมีเป้าหมายไม่เหมือนกันด้วย

    Subway Train Operator Purpose

    1. คนขับรถไฟฟ้าใต้ดิน มีแผนที่ในการขับรถไฟฟ้าไม่เหมือนกับคนทั่วไปที่ดูแผนที่รถไฟฟ้า เพราะจุดประสงค์ในการใช้ต่างกัน
    2. คนขับรถไฟฟ้าดิน จะมีแผนที่เฉพาะทางเพื่อขับรถไฟฟ้า เพื่อดูว่า ต้องเลี้ยวโค้งตรงแยกไหน

    Customer Purpose

    คนนั่งรถไฟฟ้าดิน จะมีแผนที่เพื่อดูทาง การขึ้นรถไฟฟ้าจากสถานีนึงไปอีกสถานีนึง ต้องขึ้นรถไฟฟ้า สายไหนแล้วลงสถานีไหน มีส่วนเปลี่ยนสายที่ไหน เช่น สถานีบางซื่อ


    Case 1 : Driver vs Customer in Subway

    เนื่องจากจุดประสงค์การใช้ไม่เหมือนกัน แผนที่ของคนดูทั่วไปที่ใช้ดูสถานีของรถไฟฟ้าใต้ดิน หากให้คนขับรถไฟฟ้าใต้ดินเอามาใช้คงไม่เข้าใจ เพราะถูกตัดรายละเอียดสำคัญออกจึงไม่สามารถขับรถไฟฟ้าใต้ดินไปยังจุดหมายได้

    แผนที่ Represent Reality แต่ว่า Reality ก็เปลี่ยนแปลง ตลอดเวลา เช่น อาจมีเพิ่มสถานี แต่แผนที่ในรถไฟฟ้าใต้ดินยัง update รูปแผนที่ไม่เสร็จ แต่มีการแจ้งผู้โดยสารแล้ว

    แผนที่ในหัวของคนเรา ต้องการ Update ตลอดเวลา เพื่อที่จะมี Model ที่เข้าใกล้ความเป็นจริงยิ่งขึ้น


    Case 2 : P/E Ratio

    • ถ้าเราอยากเข้าใจ บริษัทนึง เพื่อซื้อหุ้น เราอาจต้องเข้าไปศึกษา Financial Statement ของบริษัทนั้นๆ ส่วนใหญ่ดูกันที่ตัวเลข P/E Ratio คือ อัตราส่วนราคาต่อกำไรต่อหุ้น
    P/E Ratio
    P/E Ratio QualityDefinition
    Highนักลงทุนคาดหวังว่าบริษัทจะเติบโตอย่างรวดเร็วในอนาคต (หุ้นนั้นมีราคาสูง)
    Lowนักลงทุนกังวลเกี่ยวกับอนาคตของบริษัท (หุ้นนั้นมีราคาถูก)
    1. เช่นรายได้ 1 เหรียญที่บริษัทหาได้ นักลงทุนยอมจ่าย 5 เหรียญ เพื่อซื้อหุ้นตัวนี้
    2. ดังนั้น P/E Ratio ก็เป็นเหมือน map ที่ Represent จากข้อมูลบริษัททั้งหมด ว่าหุ้นตัวนี้น่าซื้อมั้ย

    หากดู Financial Statement ทั้งหมดของบริษัทนึง อาจจะนานไป เผลอๆ อาจไม่ได้ซื้อหุ้นตัวนี้ด้วย เพราะ Data เยอะมาก


    Case 3 : Thinking Fast and Slow

    Thinking Fast and Slow
    BrainDefinitionSample
    First Brainระบบคิดเร็วซื้อหุ้นตัวนั้นเพราะชอบ
    Second Brainระบบคิดแบบวิเคราะห์วิเคราะห์ข้อมูลเพื่อดูว่าหุ้นน่าซื้อมั้ย

    การที่เราจะ Mental Model ที่ดี จะต้องมี Data เยอะเพื่อช่วยให้ตัดสินใจดีขึ้นในอนาคตได้


    Model 2 : First Principles Thinking

    First Principles Thinking

    First principles หรือหลักการคิดขั้นต้น แบบวิธีคิดโดยการแยกแยะปัญหาหรือโจทย์ที่ซับซ้อนให้กลายเป็นองค์ประกอบพื้นฐานที่สุด แล้วทำการวิเคราะห์และสร้างทางออกใหม่จากรากฐานนั้น

    • First Principle Thinking เกิดมาตั้งแต่ 2500 ปีที่แล้ว

    First Principle Thinking เป็นความรู้พื้นฐานบางอย่างที่เราเข้าใจสิ่งเหล่านี้แล้ว สามารถสร้างสรรค์สิ่งใหม่ได้

    • จะต้องมองไปยังสิ่งๆนั้นเลยว่ามีแก่นเป็นอะไร ที่เป็น Foundation พื้นฐานของมนุษย์

    Case 1 : Real-Life Applications

    Tesla ไม่ใช่บริษัท ผลิตรถยนต์ แต่เป็นบริษัทที่ผลิตเทคโนโลยี

    สมัยก่อน Battery แพง

    Battery

    จึงตั้งคำถาม First principle ว่า Battery ก้อนนี้ ประกอบไปด้วยอะไรบ้าง

    • เราต้องใช้วัตถุดิบอะไรบ้างเช่น Carbon, Cobalt, Nickel and another resource
    • Elon Musk เอาส่วนประกอบมาดูว่าวัตถุดิบที่มาประกอบราคาเท่าไร จากที่ขาย 600 USD
    • แล้ว Elon Musk สามารถลดราคาจาก 600 USD –> 80 USD สำหรับ Battery
    Reduce Cost

    สิ่งที่ Elon musk ต้องการพัฒนาต่อคือการลดราคา 80 USD —> 8 USD

    • สิ่งเหล่านี้คือตั้ง First principle thinking ว่าทำอย่างไรถึงพัฒนาสินค้าให้ราคาถูกกว่านี้ได้

    Case 2 : Money

    Alex HormoziFirst Principle Thinking” เคยพูดเรื่องเงินว่ามีกฎอยู่ 2 วิธี

    1. Live below your means
    • อย่าใช้เงินเกินตัวจากเงินที่ตัวเองมี
    • ถ้าใช้เงินเกินตัวจะมีโอกาสมีหนี้ ประเทศไทยมีหนี้ 80-90% ไม่รวมหนี้นอกระบบ

    2. Invest in yourself; increase your earning capacity

    • ลงทุนในตัวเอง ยิ่งเราเก่ง ปัจจัยภายนอกจะทำล้ายเราได้น้อยลง
    Earning Capacity

    มีเงิน 100 บาท ใช้ 80 บาท นำ 20 บาทที่เหลือไปลงทุนซื้อหนังสือเพิ่มความรู้หรือดู Youtube สรุปเพื่อเพิ่มความสามารถในการย้ายงานในอนาคตได้ 20 บาทที่ลงทุนให้เพิ่มเป็น 40 บาท

    เช่น จะเพิ่มเงินเดือนจาก 15,000 บาท เป็น 30,000 บาทได้ยังไง คือ การพึ่งพาและพัฒนาตัวเอง

    Alex Hormozi ลงเรียน Facebook Ad ด้วยตัวเอง เรียน 5-6 รอบแล้วไม่จำเป็นจ้าง Facebook Ad อีกเลย


    Case 3 : Think About Life

    • ถ้าความรู้บางอย่างมีมาแล้ว 2,000 ปีแล้ว ความรู้นั้นต้องมีอะไรดี ถึงสามารถอยู่รอดมาได้จนปัจจุบัน

    พูดเกี่ยวกับการชีวิตอย่างมีความสุขว่า

    • Focus เฉพาะสิ่งที่เราควบคุมได้ , ไม่ต้องสนใจสิ่งที่เราควบคุมไม่ได้
    TypeDefinition
    Focusทำในสิ่งที่เราควบคุมได้
    Not Controlสิ่งที่เราควบคุมไม่ได้
    What You Can Control

    What you can control

    1. Mental Model ควบคุมวิธีการคิดได้
    2. ควบคุมการกระทำของเราได้

    What you can’t control

    1. ไม่สามารถควบคุมดิน ฟ้า อากาศ
    2. ไม่สามารถควบคุมผู้อื่น โดย Focus ที่ตัวเราแล้วชีวิต Happy ขึ้น

    มนุษย์มีพลังเหนือความคิดตัวเอง วันที่เรารับรู้ควบคุมการคิดได้และการกระทำเราได้ แล้วจะค้นพบพลังที่แท้จริง


    Case 4 : Think About Learning

    Focus Skill ที่สำคัญสำหรับในการดำเนินชีวิต

    Learning how to learn

    Learning How to learn : ถ้าอยากรู้วิธีการที่จะเรียนรู้ดีที่สามารถเรียนได้ผ่าน link

    Focus Skill ที่สำคัญมี 5 Skill ดังนี้

    1. Reading อ่านเพื่อกลั่นกรองไอเดียสำคัญแล้วนำไป
    2. Writing เพื่อเขียนอธิบายให้คนอื่นเข้าใจได้ดีและทำให้ตัวเองได้ทวนความรู้
    3. Focus กับทรัพยากรที่มีค่าที่ตอนนี้คือ Attention โดยปัจจุบัน Social media แย่ Attention ไปจากผู้คนเยอะมาก
    4. Logic หลักเหตุผล ออกกำลังกาย วันละครึ่งชม สุขภาพจะแข็งแรง
    5. Faith ความเชื่อ เช่น Manifestation เชื่อว่าตัวเองอยากได้สิ่งไหน จได้สุดนั้น ต้องมองโลกแง่ดี

    Model 3 : Second-order Thinking

    Type of ThinkingDefinition
    First-Order Thinkingการกระทำโดยหวังผลระยะสั้น
    Second-Order Thinkingการกระทำที่หวังผลในระยะยาว

    Second-Order Thinking เป็นการคิดอะไรในระยะยาว

    การมองระยะยาวเป็นสิ่งที่คนไม่ค่อยสนใจเท่าไร เพราะคนชอบมองผลลัพธ์ในระยะสั้นมากกว่า

    ความรู้ที่แท้จริง คือ รู้ว่าถ้าทำสิ่งนี้ ผลลัพธ์ระยะยาวที่ทำไปได้ผลลัพธ์อะไรบ้าง


    Case 1 : Discount

    Discount
    Thinking TypeDefinition
    First-Orderการขายแบบลดราคาแล้วขายสินค้าได้เยอะในระยะสั้น
    Second-Orderการขายแบบลดราคาบ่อย จะไปสู้ด้วยราคายากขึ้นในระยะยาว

    เหมือนแจกเงินกระตุ้น ใช้เงินได้ 1 ปี หลังจากนั้นเศรษฐกิจไม่โต เพราะไม่แก้ปัญหาระยะยาว ทำให้คนมีรายได้เพิ่มขึ้น

    เศรษฐกิจดี —> เงินจะเฟ้อ


    Case 2 : Junk Food

    Junk Food
    Thinking TypeDefinition
    First-Orderกิน Junk food ได้ความสุขระยะสั้น
    Second-Orderกิน Junk food มีปัญหาสุขภาพระยะยาว

    ถ้ากินพิซซ่าทุกมื้อไป 5 ปีอาจมีปัญหาสุขภาพในระยะยาว เดินไม่ไหว ออกกำลังกายหนักไม่ได้เพราะอ้วนเกิน

    ถ้าคนเราไม่คิดถึงผลของการกระทำในระยะยาว ชีวิตจะแย่เลย


    Case 3 : Time Spent on Smartphone

    Time Spent on Smartphone
    • ถ้าใช้โทรศัพท์ Social Media เยอะจะเกิดอะไรขึ้น

    โดยคนไทย ใช้เวลาบน Social Media 5 ชั่วโมง สามารถทำให้ตัวเราแย่ลงได้

    เราสามารถนำเวลา 5 ชั่วโมง ต่อวัน หรือ 2.5 เดือนต่อปี ไปทำให้เราเก่งขึ้นได้ โดยการอ่านหนังสือและพัฒนาตัวเองแล้วชีวิตจะดีขึ้นได้

    Thinking Typeจ้องโทรศัพท์วันละ 5 ชมอ่านหนังสือและพัฒนาตัวเอง 5 ชั่วโมงต่อวัน
    Short-Termมีความสุขกับเสพสื่อออนไลน์อ่านหนังสือจะเหนื่อยในช่วงแรก
    Long-Termชีวิตไม่ดีขึ้นเพราะติด Social Mediaชีวิตดีขึ้นเพราะตัวเองพัฒนาขึ้น

    Model 4 : Probabilistic Thinking

    Probabilistic Thinking

    Probabilistic Thinking คือการมองโลกเท่าไม่ได้เป็นขาวกับดำ แต่เป็นการมองโลกแบบกลางๆ สีเทา


    Case 1 : Probability

    ความน่าจะเป็นที่คนส่วนใหญ่เข้าใจมี 2 แบบ

    Probabilistic Thinking

    Frequetist Belief เป็นความน่าจะเป็นที่อาศัยความถี่และสถิติความน่าจะเป็น

    1. ความน่าจะเป็นที่โยนเหรียญหัว ก้อย มีโอกาสออกได้เท่ากัน 50 : 50
    2. ความน่าจะเป็นที่โยนลูกเต้า 1 ลูก มีโอกาสเท่ากัน 1/6

    Subjective belief เป็นความเชื่อที่ตั้งอยู่บนความคิดเห็น ความรู้สึก หรือประสบการณ์ส่วนตัวของแต่ละบุคคล

    1. คิดว่า Donald Trump จะทำให้ America กลับมายิ่งใหญ่เหมือนเดิมได้อีกครั้งหรือเปล่า

    เนื่องจากมนุษย์มีความเชื่อ Mental Model ของแต่ละคนที่ไม่เหมือนกัน ความน่าจะเป็นในมุมมองแต่ละคนจึงไม่เท่ากัน


    Case 2 : Highlight Subjective belief

    Highlight Subjective belief

    โดยหากนำความเชื่อเดิม มา Update Data ใหม่ จะได้ความเชื่อใหม่ๆ ขึ้นมา


    Develop Country

    • ถ้าได้ข้อมูลใหม่มาว่า เป็นรัฐบาลที่ดี ทำเพื่อประชาชน ฉลาด มีจริยธรรม
    Current BeliefNew DataNew Belief
    0.24%0.64%0.88%

    หลังจากเพิ่มข้อมูลด้านดีของรัฐบาลทำให้ ความน่าจะเป็นเพิ่ม 0.64% ทำให้การคำถามที่ว่าในอีก 10 ปีข้างหน้ารัฐบาลไทย จะพัฒนาสูงขึ้นอีกเป็น 0.88%

    New Data

    Case 3 : Survival

    Survival

    ทุกคนจะรอดในปีหน้ามั้ย ? ให้เราพยายามทำสิ่งที่จะทำให้เราสามารถอยู่รอดได้ในยุคอนาคตเลย

    SurvivalDefinition
    0เล่น Social Media หรือ Tik Tok
    1อ่านหนังสือ สรุปบทความ ยิ่งเข้าใกล้ 1

    การเข้าฟัง Live Mental Model ก็จะเพิ่มโอกาสให้เราในปีหน้าด้วย


    Model 5 : Inversion Thinking

    Inversion Thinking

    Inversion Thinking คือ การคิดมุมกลับ สามารถแก้ได้โดยการเปลี่ยนปัญหาต่างๆ เป็นมุมมองใหม่


    Case 1 : Make Decision

    ถ้าอยากตัดสินใจให้ดีขึ้น ต้องพยายามตัดสินใจผิดพลาดให้น้อยลง แล้วจะได้ผลลัพธ์เดียวกัน

    ThinkingDefinition
    Forward Thinking (การคิดไปข้างหน้า)เป็นวิธีการคิดแบบดั้งเดิมที่มุ่งเน้นการวางแผนและดำเนินการเพื่อบรรลุเป้าหมายที่ต้องการ
    Inverse Thinking (การคิดแบบย้อนกลับ)เป็นวิธีการคิดที่เริ่มต้นด้วยการพิจารณาถึงสิ่งที่อาจทำให้ล้มเหลว จากนั้นจึงวางแผนเพื่อหลีกเลี่ยงสิ่งเหล่านั้น

    Case 2 : Make Good health

    Make Good health

    ถ้าอยากมีสุขภาพที่ดีขึ้น เรามักคิดว่าจะกินอาหารที่ดีต่อสุขภาพเพิ่มยังไง แต่สามารถคิดถึงมุมกลับว่า เราสามารถหลีกเลี่ยงการกินอาหาร Unhealthy food ได้ยังไง


    Case 3 : Think About Freedom

    Recommended Book : How to be better at almost everything

    อิสรภาพที่แท้จริงคือการทำอะไรก็ได้ จะทำให้เรามีความสุขจริงมั้ย?

    1. อิสรภาพที่แท้จริงของ Thomas Aquinas คือ Freedom of Excellence
    2. การใช้ชีวิตอยู่ในกรอบที่เราควรจะต้องทำในแต่ละวัน และพัฒนาตัวเองให้เป็น Version ที่ดีที่สุด ที่เราควรจะเป็น (การใช้ชีวิตอย่างมีข้อจำกัด)

    จริงๆ เราสามารถทำอะไรก็ได้ แต่จริงๆแล้ว เราควร Focus ในสิ่งที่เราควรทำ

    Freedom of Excellence

    Stoic Triangle

    Stoic Triangle

    Stoic Triangle คือปรัชญา Stoic

    1. Virtues คือ การใช้ชีวิตตามความดีงาม
    2. Nature คือ การใช้ชีวิตให้สอดคล้องกับธรรมชาติ เป็นตัวเอง Version ที่ดีที่สุด
    3. Control คือ แยกสิ่งที่เราสามารถควบคุมได้และควบคุมไม่ได้ให้ออก
    การกระทำควบคุมได้ควบคุมไม่ได้
    ถ้าไม่มีเงินพยายามทำตัวเองให้เก่งให้มีคุณค่ากับองค์กรโทษรัฐบาลและเศรษฐกิจ

    มนุษย์คนไหน ไม่ได้ชีวิตตามธรรมชาติ แสดงว่าไม่ได้เป็นตัวเองใน Version ที่ดีที่สุด


    Model 6 : Circle of Competence

    Circle of Competence

    Warren Buffet เคยบอกไว้ว่า ให้เราค้นหาแล้วสร้างวงกลม Circle of Competence ทำเท่าที่มีความสามารถในการทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งได้ดี เช่น ความรู้ ทักษะ และประสบการณ์ที่มี

    Your Competence
    • ให้เราใช้ชีวิตตามที่เรามีความรู้ อย่าไปทำในสิ่งที่เราไม่เข้าใจ

    Case 1 : Expand Your Circle of Competence

    • หน้าที่ของคนเรา ควรขยายความสามารถในการทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งได้ดี เช่น ความรู้ ทักษะ ให้มายิ่งขึ้น
    Expand Your Circle of Competence
    • เช่น การเข้า live วันนี้สามารถขยายกรอบของความรู้และความสามารถที่มี เพื่อที่ได้ Territory มากขึ้น
    • ถ้าเราออกไปในจุดที่เราเก่ง ชีวิตเราแย่ลงทัน
    • ดังนั้น ชีวิตเราไม่สามารถที่จะหยุดเรียนรู้ได้เลย เพราะต้องการ Update ความรู้ในหัวเราไปเรื่อยๆ

    Case 2 : New Zealand

    ถ้าอยากไปอยู่ New Zealand เราควรเข้าใจวัฒนธรรม ภาษา การหารายได้เพิ่มให้เราสามารถไปอยู่ที่ New Zealand ได้

    เหตุผลที่เราไม่สามารถย้ายไปอยู่ New Zealand ได้เพราะไม่เข้าใจว่า ประเทศ New Zealand มีวัฒนธรรมยังไง ความเป็นอยู่แบบไหน


    Case 3 : Opinion

    • เช่นมนุษย์ หลายคนมักมีความคิดเห็นเรื่องที่เรา ไม่รู้เรื่องอยู่ เช่นในเรื่อง Social Media
    • อย่าไปนำเสนอความคิดเห็นในเรื่องที่เราไม่เข้าใจ
    • จนกว่าจะเราจะเข้าใจมุมมองของทั้ง 2 ฝ่าย

    ปัจจุบันถ้าเรื่องไหน ไม่รู้ก็ไม่ควรแสดงความคิดเห็น


    Model 7 Statistics as Mental model

    Statistics as Mental model
    • เป็น Model ที่ทำให้เราสามารถเข้าใจ Mental Model ได้ดียิ่งขึ้น

    Case 1 : Real life

    Sampling Define Population
    • ในชีวิตจริงเรา สามารถเข้าถึงข้อมูลบางส่วนได้ โดยการ Sample Data ออกมา
    • Sample กระจาย Data หลายๆแหล่งข้อมูลแล้วเข้าใจ เหตุการณ์ต่างๆได้ดีขึ้นจนสรุปผลกับไปหาเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนโลก แล้วเข้าใจเหตุการณ์เหล่านั้นได้ดียิ่งขึ้น

    Case 2 : Relationship

    • สมมุติผู้หญิงคนหนึ่งคุยกับผู้ชายคนหนึ่งอยู่จะรู้ได้ไงว่าผู้ชายที่คุยอยู่เป็นคนดีมั้ย
    • เราจะสามารถรู้ได้ไงว่าผู้ชายคนนี้จะดีมั้ย
    1. เริ่มถามเพื่อนของผู้ชายว่า ผู้ชายที่เรากำลังคุยอยู่โอเคมั้ย
    2. ผู้ชายคุยกับผู้หญิงหลายคน
    3. หน้าที่การงานของผู้้ชาย
    4. ผู้ชายกินเหล้าสูบบุหรี่

    สมมุติเก็บข้อมูลมา 3 เดือนจะสามารถสรุปได้ว่าคนนี้โอเคที่จะคบกันเป็นแฟนได้


    Case 3 : First Principles vs Statistics

    First Principles vs Statistics

    First principles

    Deductive Reasoning (การให้เหตุผลแบบนิรนัย)

    • เริ่มต้นจากข้อเท็จจริงทั่วไป (premises) เพื่อสรุปข้อเท็จจริงเฉพาะ (conclusion)
    • หากข้อเท็จจริงทั่วไปเป็นจริง ข้อสรุปที่ได้จะถูกต้องเสมอ

    ลักษณะ

    • มีความแน่นอน (certainty)
    • ใช้ในตรรกศาสตร์ คณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์

    เป็นการมองจากภาพใหญ่ ไป ภาพเล็ก เช่น กฎแรงโน้มถ่วง อธิบายจากกฎเกณฑ์พื้นฐาน แนวคิดไปยังสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเรา


    Statistics

    Inductive Reasoning (การให้เหตุผลแบบอุปนัย)

    • เริ่มต้นจากการสังเกตข้อเท็จจริงเฉพาะ (observations) เพื่อสรุปข้อเท็จจริงทั่วไป (generalization)
    • ข้อสรุปที่ได้มีความน่าจะเป็น (probability) แต่ไม่แน่นอนเสมอไป

    ลักษณะ

    • มีความน่าจะเป็น (probability)
    • ใช้ในการสังเกตการณ์วิทยาศาสตร์ การวิเคราะห์ข้อมูล และการตัดสินใจในชีวิตประจำวัน

    เรียนจาก Event ที่อยู่ตรงหน้าเรา แล้วสรุปผลกลับไปหาประชากรใหญ่ เป็นการมองจากภาพเล็ก ไปภาพใหญ่

    ควรใช้ความรู้ทั้ง 2 ด้าน ควบคู่กัน ถึงจะดี


    Summary with Good Decision

    ชีวิตคนเราไม่จำเป็นต้องมีข้อมูลที่ครบถ้วน ขอแค่เรามี 3 สิ่งนี้ ชีวิตก็สามารถตัดสินใจได้ดี

    1. Have Great mental model กรอบความคิดในการตัดสินใจที่ดีของเรา
    2. Relevant data / Information ใช้ข้อมูลที่เป็น New data เพื่อความเข้าใจต่อโลกของเรามากยิ่งขึ้น
    3. Your Ability to Reason คิดแบบมีตรรกะแล้วเปลี่ยนผลลัพธ์ให้ดีขึ้น

    นักปรัชญาเคยกล่าวไว้ว่า เวลาว่างมนุษย์ควรคิดวิเคราะห์และตกผลึกเพื่อยกระดับจิตวิญญาณเราให้สูง


    สามารถรับชมคลิปเพิ่มเติมได้การจาก Link นี้