Tag: AI

  • Summary 4 Parts from SCBx Next Tech StackZero Meetup

    Summary 4 Parts from SCBx Next Tech StackZero Meetup

    เนื่องจากได้โอกาสไปงาน SCBx Next Tech StackZero Meetup จึงได้มีโอกาสฟังงาน SCBx Next Tech StackZero Meetup จึงจดความรู้มาเผื่อเพื่อนๆที่ไม่ไปงานด้วยครับ

    บทความนี้ขอสปอยเนื้อหาเบื้องต้นก่อน

    Part ที่ 1 การสร้างกระบวนการคิดผ่านหนังสือ Life’s missing manual ผ่าน Framework Thinking → AI → productivity

    Part ที่ 2 AI Skill ที่ควรมีไว้เพื่อสมัครงาน 4 ด้าน Resilience, Storytelling, Coaching และ AI Skill

    Part ที่ 3 แนะนำ Microsoft Agent Framework ซึ่งเป็นเฟรมเวิร์กใหม่ที่ช่วยให้นักพัฒนาใช้งาน AI และ LLMs เข้ากับแอป พร้อมสร้าง จัดการ และสเกลระบบแบบ Multi-agent

    Part ที่ 4 สำรวจแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดสำหรับการสร้างระบบ Graph-based RAG


    บทความนี้เกี่ยวกับการเรียนรู้ AI Skills สำหรับการพัฒนา Software และ Soft Skills ที่ใช้การทำงานร่วมกันของโดยหัวข้อและผู้พูดดังนี้ครับ

    1. แนะนำคู่มือการใช้ชีวิตที่หายไปที่ตกผลึกจากการใช้ชีวิตและประสบการณ์ทำงาน 15 ปีของคุณทอย กษิดิศ สตางค์มงคล (DataRockie)
    2. เสริมสร้างทักษะด้าน AI ที่จำเป็นต่อการหาและสมัครงานต่าง ๆ กับคุณแทน ธีรกร อานันโทไทย (The Moment)
    3. แนะนำ Microsoft Agent Framework ซึ่งเป็นเฟรมเวิร์กใหม่ที่ช่วยให้นักพัฒนาใช้งาน AI และ LLMs เข้ากับแอป พร้อมสร้าง จัดการ และสเกลระบบแบบ Multi-agent ได้อย่างรวดเร็วและง่ายดายใน Azure AI Foundry โดยคุณพล ธีรเศรษฐ์ จิรภัทร์ชาญเดช (Microsoft MVP และ Next Flow)
    4. สำรวจแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดสำหรับการสร้างระบบ Graph-based RAG จาก Documents โดยใช้ Python กับคุณโร่ วิธวินท์ ศรีเพียรพล (Chula AI และ HowKnow IKnow)

    SCBx Next Tech StackZero Meetup

    1. Life’s Missing Manual
      1. Duration
      2. Purpose
      3. Description
      4. The 5 types of wealth
        1. Time
        2. Social and Relationship
        3. Thinking
        4. Health
        5. Finance
      5. AI and Productivity
        1. Thinking
        2. AI
        3. Productivity
        4. Slow Productivity
      6. Agency is Skill
    2. AI Skills for jobs
      1. Resilience
        1. Roots
        2. Heads
        3. Fruits
      2. Storytelling
        1. Context
        2. Challenge
        3. Action
        4. Result
        5. Impact
      3. Coaching
      4. AI Skills
        1. The 6 Most Common AI Usage Categories
          1. Personal & Professional Support
          2. Content Creation & Editing
          3. Learning & Education
          4. Technical & Know-How Assistance
          5. Creativity & Recreation
          6. Research & Analysis
    3. Building AI Agents with Microsoft Agent Framework
      1. Stack App
        1. AI App
        2. Model
        3. Azure AI Foundry
      2. Framework of Azure AI Foundry
        1. Retrieval Pattern
        2. Task Pattern
          1. Process of Task Pattern
        3. Autonomous Pattern
          1. Process of Autonomous Pattern
    4. Building Graph-Baesd RAG from documents with python
      1. What is RAG?
        1. Add Knowledge
        2. Query
        3. Choose the best Doc
        4. Generate Answer
      2. From Document to Vector
        1. Chunking
        2. Embedding
        3. Indexing
      3. Knowledge graph
      4. How we combine Graph & RAG

    Life’s Missing Manual

    Life’s Missing Manual

    Duration

    โดยหนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือที่ โค้ชหนุ่ม Money Coach ชวนแอดทอยเขียนเป็นเวลา 7 เดือน


    Purpose

    • โดยหนังสือเล่มนี้ เขียนเพื่อให้ลูกชายแอดทอยอ่านในตอนที่โตแล้ว

    Description

    1. ใช้เวลา 80 ปีที่มีชีวิตอยู่ให้มีความหมายที่สุด โดยเป็นตัวเองใน Version ที่ดีที่สุด
    2. Eudaimonia คือแก่นกลางของปรัชญาจริยศาสตร์ของ อริสโตเติล (Aristotle) ซึ่งมองว่าเป็น เป้าหมายสูงสุดของชีวิตมนุษย์
    3. โดยสิ่งที่สำคัญคือการชีวิตอยู่กับครอบครัวให้มากที่สุด ต้องมีชีวิตให้สมดุลกับครอบครัวและเงินที่หาได้

    The 5 types of wealth

    The 5 types of wealth

    สมการความมั่งคั่งมีอยู่ 5 ข้อ

    ความมั่งคั่ง = เวลา * สังคม * ความคิด * สุขภาพ * การเงิน


    Time

    โดยเวลาคือเรื่องที่สำคัญที่สุด เพราะสามารถสร้าง สังคม + ความคิด + สุขภาพ + การเงิน


    Social and Relationship

    Social and Relationship
    1. เพราะสามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในสังคม
    2. เปิดโอกาสเจอสังคมใหม่ๆ

    Thinking

    1. มีเวลาสร้างแนวคิดที่ดี
    2. ไม่เสพ Social Media ด้านลบเยอะ

    Health

    1. รู้จักออกกำลังกาย
    2. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ

    Finance

    1. รู้จักการหารายได้เพิ่ม
    2. ลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็น
    3. นำเงินออมไปลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความรู้

    AI and Productivity

    AI and Productivity
    1. Thinking
    2. AI
    3. Productivity

    Thinking → AI → Productivity


    Thinking

    • ต้องพยายามคิดให้แตกต่างจากคนทั่วไปในทางที่ดี

    Thinking principle คือ ถ้าเขียน Content ด้วยตัวเองได้ไม่ดี AI ก็จะไม่สามารถทำสิ่งเหล่านี้ได้ดีด้วย

    • ตัวอย่างของกระบวนการคิด เด็กเล็กสามารถเลือกเส้นทางได้ด้วยตัวเอง สำหรับเด็ก 1 ปี อยากจะเดินไปในก็ได้ แต่พอโตโดนหลากอย่างปิดกั้นทางเลือกตัวเองมากกว่า
    • เด็กเล็กถึงจะล้มก็สามารถลุกขึ้นมาใหม่ได้ มนุษย์แม้จะล้มเหลวแต่สามารถลุกขึ้นมาใหม่ได้เช่นกัน

    พยายามศึกษาทุกอย่างและเพิ่มความขีดความสามารถให้ตัวเอง


    George Bernand Shaw คนที่พูดถึงเรื่อง thinking บ่อยๆ

    Type of PersonDefinition
    คนส่วนใหญ่คิดแบบจริงจังแค่ 2-3 ครั้งต่อปี
    คนส่วนน้อยคิดแบบจริงจัง 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ จะช่วยให้การดำเนินชีวิตดีขึ้น

    Clear Thinking Book

    • คนส่วนใหญ่เมื่ออายุเกิน 45 ปี ถ้าโดนไล่ออกจากงาน จะไม่ค่อยมีทางเลือกในการหางานใหม่และไม่รู้ว่าตัวเองควรเรียนเสริมอะไรถึงจะอยู่รอดได้
    • คนเราควรเรียนรู้เพื่อประโยชน์ในอนาคตและพยายามคิดและเรียนรู้ Skill ใหม่ไปเรื่อยๆ

    ดังนั้นคนเราควรพยายามคิดแบบ deep thinking ให้เยอะ เพื่อเพิ่มโอกาสในการอยู่รอดในอนาคตได้


    AI

    • Social Media มีทั้งดีและไม่ดี ขึ้นอยู่กับคนใช้ว่าใช้ได้ถูกวิธีหรือเปล่า
    • เราต้องใช้ AI เพื่อเป็นคนสร้าง Content, Writing and Creator ให้เยอะ

    AI เมื่อถึงจุดหนึ่งจะสามารถเก่งกว่าคนทั่วไป 99%


    Productivity

    Productivity

    Productivity คือ ความสามารถในการสร้างผลลัพธ์ ที่มีคุณค่า โดยใช้ทรัพยากร อย่างคุ้มค่าที่สุด

    ActivityProcess WorkDefintion
    ทำงาน 9 ชม.100%ทำงานใช้เวลาเยอะกว่า งานไม่มีประสิทธิภาพ
    ทำงาน 1 ชม.100%ทำงานใช้เวลาน้อยกว่า งานมีประสิทธิภาพ
    1. แสดงว่าคนใช้เวลาทำงานน้อยกว่า มีประสิทธิภาพกว่า
    2. งานที่เราทำปัจจุบัน ถ้าเราทำ 10% AI ทำ 90% แสดงว่า เราไม่มี Productivity หรือเปล่า เพราะ AI ทำเป็นส่วนใหญ่

    การที่เราเข้าถึง productivity ต้องเข้าใจการ Thinking


    Slow Productivity

    • AI พอถึงจุดหนึ่งจะเก่งกว่าคนทั่วไป 99% ได้เลย ถ้าพัฒนาตัวเองสม่ำเสมอแล้วจะเป็นคนสุดท้ายที่โดนแทนที่

    3 method of Slow Productivity

    1. Do Fewer Things เช่น Sean D’souza เขียนบทความที่ดี 1 สัปดาห์ ผ่านไป 20 ปีเขียน 45 นาทีต่อ 1 บทความ
    2. Work at a Natural Paces ถ้าเก่งมากขึ้นก็จะยิ่งทำงานได้เร็วขึ้น
    3. Obess over quality ทำงานเน้นคุณภาพ
    • คำถามที่ควรมีในใจ คือ ทำงานในตอนนี้ให้ดีขึ้นได้ยังไงบ้าง

    Agency is Skill

    • เป็น Skill ที่มนุษย์คนๆนึงควรจะมี
    • เราควรจะคิดและทำสิ่งต่างๆ ที่จะทำได้ด้วยตัวเอง เช่น เลือกจะตื่นเช้า เพื่อทำสิ่งที่มีความหมาย
    • คนส่วนใหญ่กลัวความล้มเหลว ปัญหาที่ยาก แต่คนที่รับมือปัญหาที่เพื่อจะเก่งขึ้นได้

    เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ โดยการเรียนรู้จากพื้นฐาน → จากเรื่องง่ายไปยังเรื่องที่ยากขึ้นเรื่อยๆ


    AI Skills for jobs

    4 ทักษะที่จำเป็นสำหรับโลก AI ควรเลือกที่จะเรียนทักษะอะไรถึงจะดีที่จำเป็นต่อการหาและสมัครงานต่าง ๆ

    1. Resilience
    2. Storytelling
    3. Coaching
    4. AI Skills

    → การเปลี่ยนแปลง ความไม่แน่นอน คือ ความแน่นอน มนุษย์ต้องรู้จักปรับตัว

    IT Departments are becoming the HR of AI Agents


    Resilience

    Resilience skill คือ กระบวนการที่เป็นส่วนช่วยในการปรับตัวและทำให้เราสามารถรับมือกับเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นได้ในชีวิต

    • การที่ล้มได้ ลุกไว สามารถเรียนรู้และเติบโตต่อไปได้จากความผิดพลาด
    • ต้องรอด → ต่อยอด → สุดยอด

    มีแบ่งออกเป็น 3 ขั้น


    Roots

    • มีกำลังใจดีๆในชีวิตของคุณ เช่น ครอบครัว เพื่อน ศาสนา ศิลปะ หรืออื่นๆ

    ตัวอย่าง : การตระหนักถึงความสามารถและข้อดีของตนเอง (Self-Worth)


    Heads

    • เชื่อมั่นใน จุดแข็ง (Strength) หรือ ทักษะความสามารถ (Skills & Ability)

    ตัวอย่าง : Head IT บางคนไม่ได้เขียน Code เก่งที่สุด แต่เป็นคนเห็นอกเห็นใจผู้อื่นก็เป็นดาวเด่นได้ตลอด


    Fruits

    • หมายถึง ผลลัพธ์ (result) หรือความสำเร็จ (Success) ที่คุณภูมิใจ
    • การตัดสินใจที่จะลงมือทำเพื่อปรับปรุงสถานการณ์ให้ดีขึ้น แทนที่จะรอให้สิ่งภายนอกมาแก้ไขให้

    ตัวอย่าง : คนเราต้องภูมิใจระหว่างทาง หรือ เขียนการ์ดขอบคุณใก้คนที่เรารัก


    Storytelling

    Storytelling
    • มีทักษะเล่าเรื่องให้น่าสนใจ โน้มน้าวน่าจดจำ
    • ไม่ว่าคุณจะมีผลไม้แห่งความสำเร็จมากมาย แต่ถ้าเล่าเรื่องไม่น่าสนใจคนก็ไม่อินด้วย

    โดยสิ่งเหล่านี้จะมีพื้นฐาน 5 อย่าง

    Context

    บริบท คือ สร้างสถานการณ์ตั้งต้น โดยบอกว่า “เกิดอะไรขึ้นที่ไหน เมื่อไหร่ และทำไม” เพื่อให้ผู้ฟังเข้าใจสภาพแวดล้อมก่อนการเริ่มต้นของปัญหาหรือโครงการ


    Challenge

    เจอปัญหาที่ค้นพบ คือ ระบุปัญหาหลัก อุปสรรค ความขัดแย้ง หรือเป้าหมายที่ต้องการบรรลุ บอกว่า “ปัญหาคืออะไร และมันส่งผลกระทบอย่างไร” นี่คือจุดที่เรื่องราวน่าสนใจขึ้น


    Action

    สิ่งที่ทำ คือ อธิบายถึงขั้นตอนหรือการกระทำที่เราได้ทำลงไปเพื่อแก้ไขปัญหาหรือตอบสนองต่อความท้าทาย เน้นย้ำถึง “บทบาทของเรา” และความพยายามที่ใช้


    Result

    ผลลัพธ์ คือ สรุปผลที่ได้จากการดำเนินการของเรา เน้นผลลัพธ์ที่ วัดผลได้ และมีความชัดเจน (เช่น ตัวเลข, เปอร์เซ็นต์, การประหยัดเวลา/ต้นทุน)


    Impact

    ผลกระทบ คือ อธิบายถึงผลลัพธ์นั้นส่งผลต่อภาพรวมขององค์กร ลูกค้า หรือสถานการณ์ในระยะยาวอย่างไรบ้าง เช่น “ความเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่กว่าคืออะไร?” นี่คือส่วนที่สร้างความประทับใจและความหมายให้กับเรื่องเล่า


    Coaching

    • การตั้งคำถามเชิง Coaching
    • คนถามคำถามเก่งจะถามได้ดีแบบ Google

    เลือกทางที่ใช่ → เลือกทางที่ดีที่สุด

    GoalRealityOptionWay Forward
    ต้องการเดินทางไปไหนอยู่ที่ไหนช่วยหาเส้นทางที่เหมาะสมคุณตัดสินใจจะทำอะไรเป็นขั้นตอนต่อไป

    → จงเป็น Google map ให้คนรอบข้างที่ดี


    AI Skills

    • AI Skill การใช้งานที่ถูกวิธี
    • ความสามารถ AI ในช่วงเวลานี้คือ Amazing Intern จบมาจากมหาลัยชั้นนำในต่างประเทศโดยที่ต้อง Prompt และตรวจสอบทุกครั้ง

    ไม่ว่าจะอายุเท่าไร อาชีพอะไร ก็สามารถสร้างทักษะใหม่ๆได้


    The 6 Most Common AI Usage Categories

    AI ที่ปัจจุบันคนนิยมใช้มีดังนี้

    Personal & Professional Support

    • การสนับสนุนส่วนบุคคลและอาชีพ มีอัตราส่วน 31%
    • ใช้เพื่อเสริมทักษะ Soft Skills เช่น การให้คำปรึกษาเรื่องส่วนตัว เช่น ดูดวง, การพัฒนาส่วนบุคคล
    • AI : Chatgpt Copilot gemini
    • TIPS : Prompts บอก AI ให้ GROW Model ในการ Coach ของคุณ

    Content Creation & Editing

    • การสร้างและแก้ไขเนื้อหา มีอัตราส่วน 18%
    • การผลิตเนื้อหา เช่น การเขียน, การออกแบบ, การทำสื่อการสอน, หรือการตลาดเนื้อหา (Content Marketing)
    • AI : Gemini Pro

    Learning & Education

    • การเรียนรู้และการให้ความรู้ อัตราส่วน 16%
    • เรียนรู้สิ่งใหม่ตลอดเวลา หรือ สอนความรู้ให้อื่น
    • AI : Deep Research

    Technical & Know-How Assistance

    • ความช่วยเหลือด้านเทคนิคและความรู้เฉพาะทาง มีอัตราส่วน 15%
    • ใช้เพื่อเสริมทักษะ Hard Skills เช่น แก้ปัญหาทางเทคนิคการเขียน coding เชิงลึก
    • AI : Claude

    Creativity & Recreation

    1. ความคิดสร้างสรรค์และสันทนาการ มีอัตราส่วน 11%
    2. สร้างงานที่มีความคิดสร้างสรรค์ต่างๆ เช่น รูปภาพ และ วิดีโอ
    3. AI : Gemini banana

    Research & Analysis

    1. การวิจัยและการวิเคราะห์ มีอัตราส่วน 9%
    2. เป็นการค้นคว้าข้อมูลเพื่อสนับสนุนงานต่างๆ เช่น การหาข้อมูลเพื่อสร้างเนื้อหาในการเขียน content
    3. AI : Claude

    Building AI Agents with Microsoft Agent Framework

    Framework สำหรับ Building AI Agents คือการสร้างสิ่งที่ไม่เคยมีมาก่อน ให้เกิดขึ้นมาโดยที่เส้นทางเหล่านั้นสะดวกกับการใช้งาน เพื่อสร้างสิ่งต่างๆได้อย่างใจคิด

    Stack App

    Stack App คือ Framework ที่ใช้สำหรับสำรวจการทำงานของ AI

    AI App -> Model -> Azure AI Foundry


    AI App

    AI App คือ แอปพลิเคชันที่ผู้ใช้งานอย่างเราโต้ตอบด้วย

    • เป็นสิ่งที่เราเห็นและสัมผัส เช่น ที่สามารถพิมพ์ถามได้ (แบบ ChatGPT), แอปแต่งรูป AI (banana), หรือโปรแกรมแปลภาษา (gemini pro)

    Model

    Model เป็น อัลกอริทึมที่ถูกฝึกฝนด้วยข้อมูลมหาศาลเพื่อให้มีความสามารถเฉพาะทาง (เช่น เข้าใจภาษา, สร้างภาพ, วิเคราะห์ข้อมูล)

    • โดยที่ Model พวกนี้คือจุดเริ่มต้นที่เลียนแบบเทคโนโลยีมาใช้ โดยที่จริงแล้ว AI ไม่ฉลาด แต่เลียนแบบมนุษย์ได้ เพื่อโต้ตอบของมนุษย์ได้ โดยการเลียนแบบวิธีการสังเคราะห์ ให้แต่งประโยคได้เหมือนมนุษย์ที่เป็นอุปกรณ์ชื่อ Azure AI Foundry

    Azure AI Foundry

    เป็น “Catelog” ที่ Microsoft รวบรวมสุดยอด AI Model เก่งๆ จากหลายค่าย (เช่น claude, gemini, OpenAI และของ Microsoft เอง) มาไว้ในที่เดียว เช่น

    • มี AI Agent ที่สามารถสร้าง Agent เป็น Booking Assistant, เป็น HR Position, เป็น Marketing Position และ brief งาานได้นำมา เพื่อประยุกต์ใช้ในงานต่างๆได้ มอบหมายหน้าที่ได้รับมอบหมาย

    Framework of Azure AI Foundry

    Framework of Azure AI Foundry

    มี 3 รูปแบบ (Patterns) หลักในการสร้างแอปพลิเคชัน Generative AI ซึ่งเป็นแนวคิดพื้นฐานที่เครื่องมืออย่าง Azure AI Foundry ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อรองรับครับ โดยมี 3 ระดับของ ความฉลาด และ ความเป็นอิสระ ของ AI จากง่ายไปยาก

    Retrieval Pattern

    • รูปแบบการดึงข้อมูล เป็นการตอบโดยให้ AI ไปค้นหาคำตอบจากหนังสือหรือแหล่งที่มาอื่นๆ
    • เพื่อให้ได้คำตอบที่ ถูกต้อง แม่นยำ และอ้างอิงได้ จากข้อมูลเฉพาะของคุณ เช่น เอาข้อมูลวันลาของพนักงานได้
    • AI : RAG, Azure AI Search

    Task Pattern

    • รูปแบบการทำงานเฉพาะอย่าง
    • งานเดี่ยว (Single Task): สั่งให้ “สรุป” บทความ
    • งานต่อเนื่อง (Task Chaining): สร้างลำดับงานที่ตายตัว

    Process of Task Pattern

    1. รับไฟล์เสียง (Input)
    2. ใช้ AI ถอดเสียง เป็นข้อความ (Task 1)
    3. ใช้ AI แปล ข้อความเป็นภาษาอังกฤษ (Task 2)
    4. ใช้ AI สรุป ใจความสำคัญ (Task 3) รวมทั้งหมดเป็น Automate workflow

    Autonomous Pattern

    • มี AI Agent เป็นผู้ช่วยส่วนตัว
    • plan ตั้งเงื่อนไขไว้ว่า Chatgpt จะทำงานเมื่อไร สามารถใส่ AI Agent ได้มากกว่า 1 ตัวมากกว่า 1 Application ด้วย code 3 บรรทัด สามารถเชื่อมกับการ deploy ผ่าน Azure AI Foundry
    • สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมผ่าน Website นี้

    https://learn.microsoft.com/en-us/azure/ai-foundry/what-is-azure-ai-foundry


    Process of Autonomous Pattern

    1. ผู้ใช้ตั้ง “เป้าหมาย” (เช่น “วางแผนทริปเที่ยวญี่ปุ่นให้ 5 วัน งบ 50,000 บาท”)
    2. AI “คิดวิเคราะห์” (Reasoning) ว่าต้องทำอะไรบ้าง (1. หาเที่ยวบิน 2. หาโรงแรม 3. วางแผนการเดินทาง 4. คุมงบ)
    3. AI “เลือกใช้เครื่องมือ” (Tool Use) ที่จำเป็น เช่น เรียก API ของเว็บจองตั๋ว, ค้นหาเว็บรีวิว, ใช้เครื่องคิดเลข
    4. AI ทำงานเป็น “วงจร” (Loop) จนกว่าเป้าหมายจะสำเร็จ และอาจ “แก้ไข” แผนของตัวเองได้ถ้าระหว่างทางเจอปัญหา

    ถ้าหากลองให้ Azure AI Foundry ทำงานดู ก็จะรู้ได้ว่า AI ทำงานผิดพลาดและ AI กำลังเติบโตไปพร้อมๆกับเรา เหมือนกับที่เราผ่าน Computer, Smartphone เพราะปัจจุบันคนต้องการคนที่สร้างและสอน AI อีกมาก


    Building Graph-Baesd RAG from documents with python

    • โดยความเป็นจริงแล้วเบื้องหลังการทำ AI คือไปทำ Search ว่า AI สามารถค้นข้อมูลได้ยังไง
    What is RAG?

    What is RAG?

    Retrieval-Augmented Generation (RAG) เป็น Framework ที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มขีดความสามารถของโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLMs) โดยการผสานการค้นคืนข้อมูลจากแหล่งภายนอกเข้ากับกระบวนการสร้างคำตอบ แม้ว่า LLMs แบบดั้งเดิมจะมีประสิทธิภาพสูง แต่ก็มีข้อจำกัดที่ข้อมูลที่ใช้ในการฝึกฝน ซึ่งอาจล้าสมัยหรือขาดความรู้เฉพาะทางอย่างรวดเร็ว RAG แก้ไขข้อจำกัดเหล่านี้โดยการนำข้อมูลที่ทันสมัยและเฉพาะทางจากแหล่งภายนอกมาใช้ ทำให้โมเดลสามารถสร้างคำตอบที่ทั้งทันสมัยและตรงกับบริบทได้

    Add Knowledge

    • ระบุ AI ที่ต้องการให้ความรู้ไปก่อน โดยเรานำเอกสาร (หนังสือ) ไปให้ AI เรียนรู้และจัดเก็บใน “ฐานข้อมูลความรู้ AI”

    Query

    • ให้ AI หาหนังสือจาก ฐานข้อมูลความรู้ AI

    Choose the best Doc

    • หาหนังสือที่ดี

    Generate Answer

    • ตอบคำถามให้กับเรา

    From Document to Vector

    From Document to Vector

    Chunking

    1. Chunking คือ การแบ่งเอกสาร
    2. จากหนังสือ เราไม่สามารถนำหนังสือทั้งเล่มและป้อนให้ AI ตรงๆ ได้ เพราะมันใหญ่เกินไป
    3. เราจึงต้อง “หั่น” (Chunk) หนังสือนั้นให้เป็น “เอกสาร” ชิ้นเล็กๆ เช่น ทีละย่อหน้า หรือทีละ 1,000 ตัวอักษร
    4. (เป็น: เอกสาร) เราจะได้เอกสารชิ้นเล็กๆ หลายพันชิ้น

    Embedding

    • การแปลงเป็น Vector
    • จากเอกสาร เรานำเอกสารชิ้นเล็กๆ แต่ละชิ้น ป้อนเข้า “Embedding Model (นี่คือ AI อีกตัวที่ทำหน้าที่ “แปลง” โดยเฉพาะ)
    • (เป็น: Vector) Model นี้จะ “อ่าน” เอกสารแต่ละชิ้น แล้ว “สร้าง” Vector (ชุดตัวเลข) ที่แทนความหมายของชิ้นนั้นๆ ออกมา
    • ผลลัพธ์: เราจะได้ Vector หลายพันชุด ที่คู่กับเอกสารต้นฉบับของมัน

    Indexing

    • การจัดเก็บ
    • เรานำ Vector ทั้งหมดนี้ไปเก็บใน “Vector Database” (ฐานข้อมูลเวกเตอร์)
    • ฐานข้อมูลนี้เปรียบเหมือน “คลังความรู้” (Knowledge Base) หรือ “ห้องสมุด” ที่จัดเรียงหนังสือตาม “พิกัดความหมาย” ทำให้ค้นหาได้เร็วมาก

    Knowledge graph

    การสร้างกราฟความรู้ (Knowledge Graph) จากเอกสารโดยอัตโนมัติ โดยใช้ LLM (Large Language Model) คือกระบวนการ เปลี่ยนข้อความ ให้กลายเป็น “ฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์” (Graph Database) ที่แสดงว่าอะไรเชื่อมโยงกับอะไรบ้าง

    Build Knowledge Graph
    1. Doc (เอกสาร): คือเอกสารต้นฉบับของคุณ (เช่น หนังสือ, บทความวิจัย, เอกสารนโยบาย) ซึ่งเป็นข้อมูลที่ยังไม่มีโครงสร้าง (Unstructured Data)
    2. Chunk (ส่วนย่อย): เอกสารถูกแบ่งออกเป็นชิ้นเล็กๆ (เหมือนในระบบ RAG) เพื่อให้ LLM สามารถประมวลผลได้ง่ายขึ้น
    3. LLM (สมอง): นี่คือส่วนที่ฉลาดที่สุด LLM จะ “อ่าน” ข้อความในแต่ละ Chunk และ “สกัด” (Extract) ความสัมพันธ์ที่ซ่อนอยู่ออกมา
    4. Edge List (รายการเส้นเชื่อม):
      1. Edge List คือผลลัพธ์ ที่ LLM สกัดออกมา
      2. มันคือรายการของ Triplets (ชุดข้อมูล 3 ส่วน) ที่อยู่ในรูปแบบ (Subject, Predicate, Object) หรือ (สิ่งหนึ่ง, ความสัมพันธ์, อีกสิ่งหนึ่ง)
      3. จากตัวอย่างในภาพ:
        • (Paper_A, Method_A, use) หมายความว่า Paper_A ใช้ Method_A
        • (Method_A, Method_B, relate_to) หมายความว่า “Method_A เกี่ยวข้องกับ Method_B”
        • (Method_A, Value_1, result) หมายความว่า “Method_A มีผลลัพธ์เป็น Value_1″
    5. Knowledge Graph (กราฟความรู้):
      • คือการที่เรานำ Edge List ทั้งหมดมาประกอบร่างสร้างเป็นเครือข่าย
      • Nodes (โหนด): คือ “สิ่งของ” หรือ “แนวคิด” (วงกลมสีต่างๆ เช่น Paper_A, Method_A)
      • Edges (เส้นเชื่อม): คือ “ความสัมพันธ์” ที่เชื่อมโยงโหนดเข้าด้วยกัน (ลูกศรที่มีป้ายกำกับ เช่น use, relate)

    How we combine Graph & RAG

    How we combine Graph & RAG
    1. User (ผู้ใช้): ผู้ใช้ถามคำถามที่ซับซ้อน เช่น Method_A ให้อะไร และมันเกี่ยวกับอะไรบ้าง?
    2. LLM (สมองตัวที่ 1 – ตัววางแผน): LLM วิเคราะห์คำถาม แล้วคิดว่า “ฉันต้องไปหาข้อมูลเกี่ยวกับ Method_A
    3. VectorDB (ตัวค้นหา): LLM ส่งคำค้นหาไปที่ VectorDB (ซึ่ง VectorDB นี้ อาจเก็บ Vector ของ “โหนด” ต่างๆ ในกราฟ) เพื่อค้นหาว่า “โหนด” ไหนใน Knowledge Graph ที่ “เกี่ยวข้อง” กับคำถามมากที่สุด
    4. Knowledge Graph (ดึงข้อมูล):
      1. VectorDB “ชี้เป้า” ไปที่โหนด Method_A
      2. ระบบจึงทำการ “ดึง” (Retrieve) “กราฟย่อย” (Sub-Graph) ที่อยู่รอบๆ Method_A ออกมา (ส่วนที่อยู่ใน กรอบสีเขียว)
      3. นี่คือหัวใจสำคัญ: แทนที่เราจะได้ “ข้อความ” (Text) เรากลับได้ “ข้อมูลเชิงโครงสร้าง” (Structured Data) ที่บอกว่า:
        • Method_A ถูกใช้ (use) โดย Paper_A และ Paper_B
        • Method_A เกี่ยวข้อง (relate) กับ Method_B
        • Method_A มีผลลัพธ์ (result) เป็น … (วงกลมสีชมพู)
    5. LLM (สมองตัวที่ 2 – ตัวสร้างคำตอบ): LLM (ตัวเดิมหรือตัวใหม่ก็ได้) รับ “กราฟย่อย” ที่แม่นยำนี้มาเป็น “บริบท” (Context)
    6. Answer (คำตอบ): LLM สร้างคำตอบที่ถูกต้องและครบถ้วนโดย “อ่าน” จากความสัมพันธ์ในกราฟนั้น เช่น Method_A ถูกใช้ใน Paper_A และ B, มีความเกี่ยวข้องกับ Method_B และให้ผลลัพธ์ที่ต้องการ

    โดยสรุปบทความนี้ชี้ให้เห็นว่าการจะประสบความสำเร็จในยุค AI นั้น ต้องเริ่มต้นจากการปรับ กระบวนการคิด และพัฒนา ทักษะ 4 ด้านที่จำเป็น (Resilience, Storytelling, Coaching, AI Skill) ในขณะเดียวกัน ฝั่ง นักพัฒนา ก็ต้องอัปเดตเครื่องมือใหม่ๆ อย่าง Microsoft Agent Framework เพื่อสร้างระบบ Multi-agent และเรียนรู้เทคนิคขั้นสูงอย่าง Graph-based RAG เพื่อสร้าง AI ที่ชาญฉลาดและตอบโจทย์ได้แม่นยำที่สุด หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับทุกท่านครับ

    ขอบคุณ SCBxtech Next Tech StackZero Meetup ที่จัดกิจกรรมดีๆให้ครับ


  • 5 Topic for Intro to Data Analytics

    5 Topic for Intro to Data Analytics

    เป็นบทความที่เขียนเพื่อที่จะช่วยให้สามารถเข้าใจวิธีการของ Data Analytic เบื้องต้น, ความแตกต่างระหว่าง AGI vs ANI ที่เป็นปัญญาประดิษฐ์ที่มีความสามารถที่แตกต่างกัน รวมทั้งรู้จักความแตกต่างของ Data Engineer vs Data Analyst vs Data Scientist ว่าทำงานแตกต่างกันอย่างไรบ้าง และ Artificial Intelligence vs Machine Learning vs Deep Learning มีการทำงานจากข้อมูลแบบไหน โดยที่สิ่งเหล่านี้จะมีประโยชน์กับการเข้าใจโลกของข้อมูลมากขึ้น


    Intro to Data Analytics

    1. What is Data Analytics
      1. Framework
      2. Cognitive Analytics
    2. AGI vs. ANI
      1. Case : Open AI
    3. Data Engineer vs Data Analyst vs Data Scientist
    4. Artificial Intelligence vs Machine Learning vs Deep Learning
    5. Another How to find Case Studies in Chatbot

    What is Data Analytics

    Data Analytics คือ รูปแบบของการตรวจสอบ ทำความสะอาด แปลง และสร้างแบบจำลองข้อมูล โดยมีเป้าหมายเพื่อค้นพบข้อมูลเชิงลึกที่เป็นประโยชน์


    Framework

    • ขั้นตอนในการจัดการข้อมูลจาก Raw data > Insight เรียกว่า 4 เฟส ของการทำดาต้า
    1. Added – Value แกนตั้งแสดงขึ้นผลตอบแทนที่เราได้กลับมา
    2. Complexity แกนอนแสดงถึงความยากง่ายในการทำสิ่งนั้น
    Framework of Data Analytics
    TypeDefinitionSample
    Descriptive AnalyticsWhat happened?ตั้งคำถามว่าก่อนหน้านี้เกิดอะไรขึ้น เช่นในเดือนที่แล้วมีลูกค้าประจำมาสมัครสมาชิก
    Diagnostic AnalyticsWhy it happened?ตั้งคำถามว่าทำไมถึงเป็นแบบนั้น เช่นทำไมลูกค้าที่ทานประจำจึงมาสมัครสมาชิกในช่วงเดือนที่แล้ว
    Predictive AnalyticsWhat will happen?ทำนายอนาคตว่าหลังจากนี้จะเป็นยังไง เช่นถ้าออกโปรโมชั่นเมนูพิเศษสำหรับบัตรสมาชิก ลูกค้าจะซื้อเมนูในโปรโมชั่นไหม
    Prescriptive AnalyticsWhat should we do about it?ถ้าลูกค้าไม่ต่อโปรโมชั่นบัตรสมาชิกเราควรจะทำยังไงถึงจะดึงดูดให้ต่ออายุบัตรสมาชิก
    • ต้องทำให้ลูกค้ากลับมาดู Netflix , Disney โดยนำเข้า ซีรี่ย์ ใหม่เรื่อยๆ เพื่อรักษาลูกค้าไว้

    ในทุกๆโปรเจคเราต้องตั้งคำถามใน 4 framework

    • AI ณ ปัจจุบันมีโอกาสผิดพลาดได้ จึงจะต้องมี framework ที่ 5 เพิ่มเข้ามาเพื่อให้ดีและละเอียดยิ่งขึ้น

    Cognitive Analytics

    Cognitive Analytics
    • การวิเคราะห์ความรู้ความเข้าใจที่ใช้ในการจำลองความสามารถในการคิดของมนุษย์
    • การวิเคราะห์เชิงทำนาย เป็นการวิเคราะห์ข้อมูลในอดีตเพื่อหารูปแบบความสัมพันธ์ในชุดข้อมูลที่สามารถนำมาเป็นต้นแบบในการทำนาย การคาดการณ์ ผลหรือสิ่งที่น่าจะเกิดขึ้นในอนาคต

    AGI vs. ANI

    Artificial generative Intelligence vs Artificial Narrow Intelligence / Future vs Present

    QualityAGIANI
    Descriptionปัญญาประดิษฐ์ที่มีความสามารถทั่วไปใกล้เคียงกับมนุษย์ ทำงานได้หลายด้านปัญญาประดิษฐ์ที่ออกแบบมาเฉพาะด้าน ทำงานได้เฉพาะงานหรือปัญหาหนึ่งๆ
    Flow workสามารถปรับตัวและเรียนรู้การทำงานใหม่ๆ ได้โดยไม่จำเป็นต้องตั้งโปรแกรมเพิ่มถูกตั้งโปรแกรมมาเพื่อทำงานเฉพาะอย่าง และไม่สามารถทำงานนอกเหนือจากนั้นได้
    Exampleการเข้าใจภาษาธรรมชาติในหลายภาษา, การแก้ปัญหาที่ซับซ้อนแบบมนุษย์ระบบแนะนำสินค้า, การรู้จำใบหน้า, การประมวลผลภาพ

    Multimodal AI ที่เข้าใจ content หลายประเภทมากกว่าเดิม


    Case : Open AI

    Open AI แต่ละชนิดก็จะมีความเชี่ยวชาญในแต่ละด้านดังตารางด้านล่างนี้ครับ

    ProgramExpert
    ChatGPTLanguage
    DallePicture
    SolarVideo
    WhisperAudio
    • ChatGPT can make mistakes. Check important info.

    AI สามารถดูวิดีโอได้เยอะกว่ามนุษย์ สามารถ process ข้อมูลได้ดีกว่า มนุษย์ หา pattern ดีกว่า


    Data Engineer vs Data Analyst vs Data Scientist

    Data Engineer vs Data Analyst vs Data Scientist
    คุณสมบัติData EngineerData AnalystData Scientist
    บทบาทหลักออกแบบ สร้าง และดูแลโครงสร้างพื้นฐานการจัดเก็บข้อมูลวิเคราะห์และตีความข้อมูลเพื่อสร้างรายงานและแนะนำการตัดสินใจสร้างแบบจำลองเชิงคาดการณ์และวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก
    เป้าหมายสร้างระบบที่มีประสิทธิภาพทำความเข้าใจแนวโน้มและให้ข้อมูลเชิงลึกสำหรับธุรกิจสร้างโมเดลเพื่อคาดการณ์และแก้ปัญหาทางธุรกิจที่ซับซ้อน
    การใช้เครื่องมือSQL, Apache Spark, Hadoop, Airflow, NoSQLExcel, SQL, Power BI, Tableau, Google AnalyticsPython, R, TensorFlow, PyTorch, Jupyter Notebook
    ทักษะที่จำเป็นการเขียนโปรแกรม, การจัดการฐานข้อมูล, การพัฒนา ETL, ความรู้ด้าน Cloudการวิเคราะห์ข้อมูล, การสร้างรายงาน, การใช้เครื่องมือ BIการเขียนโปรแกรม, การสร้างแบบจำลอง, การใช้ Machine Learning
    • ส่วนใหญ่ บริษัทคาดหวังว่าอะไรพนักงานจะมี Skill เยอะๆ แล้วทำได้หลายอย่าง

    TypeExample
    Unstructured Dataอีเมล, PDF, โพสต์บนโซเชียลมีเดีย
    Structured Dataตาราง Excel, ข้อมูลที่ใช้ในฐานข้อมูล SQL

    Artificial Intelligence vs Machine Learning vs Deep Learning

    Artificial Intelligence vs Machine Learning vs Deep Learning Framework from Andrew Ng
    TypeArtificial Intelligence (AI)Machine Learning (ML)Deep Learning (DL)
    Descriptionระบบที่สามารถทำงานหรือคิดอย่างฉลาดเหมือนมนุษย์สาขาหนึ่งของ AI ที่เน้นการเรียนรู้จากข้อมูลสาขาหนึ่งของ ML ที่ใช้โครงข่ายประสาทเทียมในการเรียนรู้
    Objectiveสร้างระบบที่มีความสามารถในการประมวลผลข้อมูลและตัดสินใจสร้างแบบจำลองที่สามารถคาดการณ์หรือจำแนกประเภทข้อมูลได้การเรียนรู้คุณลักษณะอัตโนมัติและการจัดการกับข้อมูลที่ไม่มีโครงสร้าง
    Techniqueการประมวลผลภาษาธรรมชาติ (NLP), การรับรู้เสียง, ระบบอัจฉริยะอัลกอริธึมเช่น Linear Regression, Decision Trees, SVMโครงข่ายประสาทเทียม เช่น CNN, RNN, LSTM
    Dataสามารถทำงานกับข้อมูลที่มีโครงสร้างและไม่มีโครงสร้างต้องการข้อมูลจำนวนมากเพื่อการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพต้องการข้อมูลจำนวนมากและข้อมูลที่มีความหลากหลายเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

    AI คือโลกใหญ่ Machine Learning คือเทคนิคที่ทำให้เราไปถึง AI ได้ Deep learning คือ Algorithm ที่เก่งมาก


    Another How to find Case Studies in Chatbot

    โดยเราสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับเคสเพิ่มเติมของ data science เพิ่มได้จากการพิมพ์ถามจาก ChatGPT หรือ Gemini เพื่อช่วยที่จะเรียนรู้ได้

    Prompt : I want to learn more about data science case studies.

    can you help me find popular case studies in data science and data analytics. at least 2 case study

    Case Study

    โดยสรุปแล้ว ความสำคัญของบทความนี้ได้ว่า การเข้าใจกระบวนการ Data Analytic จะช่วยให้เข้าใจเกี่ยวกับ Role อาชีพของ Data และการทำงานของ Machine Learning หรือ AI ด้วยครับ หวังว่าจะได้ผู้อ่านทุกท่านจะได้ประโยชน์จากการอ่านบทความนี้ไม่มากก็น้อยครับ ขอบคุณครับ


    ขอบคุณเนื้อหาดีๆจาก Data Science Bootcamp 11 : https://data-science-bootcamp1.teachable.com/courses/data-science-bootcamp-11/lectures/60407535


  • 20 Questions with Andrew Ng : Business Opportunities with AI เปลี่ยนแนวคิดเรื่อง business และ AI ได้มากขึ้นง่ายนิดเดียว

    20 Questions with Andrew Ng : Business Opportunities with AI เปลี่ยนแนวคิดเรื่อง business และ AI ได้มากขึ้นง่ายนิดเดียว

    ANDREW NG

    1. คำกล่าวสำคัญสำหรับโลกยุคปัจจุบัน
    2. ความสามารถของ AI ในปัจจุบัน
    3. สิ่งที่คนคาดไม่ถึงเกี่ยวกับ AI
    4. เบื้องหลังการทำงานของ Generative AI
    5. ความเป็นไปได้ที่จะเข้าใกล้ AGI ปัญญาประดิษฐ์ทั่วไปที่เทียบเท่าสติปัญญามนุษย์
    6. อนาคตโมเดลภาษาขนาดใหญ่
    7. วิธีใช้ Agentic Workflow อย่างมีประสิทธิภาพ
    8. ผลกระทบ AI ในอนาคต ผลกระทบของ AI ตอนนี้และในอีก 5 ปีข้างหน้าจะเป็นอย่างไร
    9. การสร้างการใช้งาน AI สำหรับองค์กร
    10. AI ไม่ได้มาแทนที่คน แต่คนที่ไม่ใช้ AI ต่างหาก ที่จะมาแทนที่คนที่ไม่ใช้ AI
    11. ความท้าทายเรื่อง AI ในการประยุกต์ใช้ในธุรกิจ
      1. ควรมีการฝึกอบรมเบื้องต้น แต่จะต้องเป็นงานที่ต้องให้คนรู้วิธีการทำงาน
      2. ควรประเมินโครงการเพื่อหาความว่ามีโครงการที่ดีระดับ 10-15 โครงการ โดยการระดมสมองเป็นเรื่องสำคัญ ควรที่จะมีความรู้เฉพาะด้าน
    12. คำแนะนำในการหาพาร์ตเนอร์ด้าน AI
    13. ทักษะสำคัญที่ทำให้มนุษย์อยู่รอดในยุค AI
    14. การร่วมงานกับ Amazon ในฐานะสมาชิกบอร์ดบริหารของ Andrew Ng
    15. อนาคตการประมวลผลบนคลาวด์
    16. AI จะเป็นภัยคุกคามของมนุษยชาติหรือไม่
    17. การกำกับดูแลด้าน AI
    18. AI จะช่วยแก้ไขปัญหาเรื่องความไม่เท่าเทียมทางสังคมหรือทางเศรษฐกิจ
    19. AI กับ การศึกษา
    20. กูรูระดับโลกใช้ AI ในชีวิตประจำวันอย่างไรบ้าง


    Question : ความสามารถของ AI ในปัจจุบัน

    ความสามารถของ AI คือ การสร้างเทคโนโลยีที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อสร้างสิ่งใหม่ ๆ ตามวัตถุประสงค์หรือเป้าหมายที่กำหนดไว้เฉพาะ เหมือนไฟฟ้าที่สามารถใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง

    Artificial Intelligence คือ โปรแกรมคอมพิวเตอร์มีฟังก์ชันสามารถทำงานได้เหมือนกับมนุษย์


    ประเภทของ AI แบ่งได้ 2 ประเภทดังนี้

    TypeDefinition
    Predictive AIเรียนรู้แบบมีผู้สอน สามารถช่วยตอบคำถามได้
    Generative AIสามารถสร้าง ข้อความ รูปภาพ และเสียงที่มีคุณภาพสูงออกมาได้
    Artificial Intelligence

    Question : สิ่งที่คนคาดไม่ถึงเกี่ยวกับ AI

    สามารถนำเทคโนโลยีนี้ไปประยุคใช้กับงานหลักได้ โดยหากต้องการให้แม่นยำขึ้นสามารถใช้ AI Agentic workflow ช่วยได้
    • สามารถนำเทคโนโลยีนี้ไปประยุคใช้กับงานหลักได้ โดยหากต้องการให้แม่นยำขึ้นสามารถใช้ AI Agentic workflow ช่วยได้

    การใช้ AI ในการแปลเอกสารทางกฎหมาย ChatGPT or Claude แปลได้ไม่ดีเพราะเก่งการแปลเฉพาะด้าน

    การใช้ AI ในการแปลเอกสารทางกฎหมาย ChatGPT or Claude แปลได้ไม่ดี

    เบื้องหลังการทำงานของ Generative AI

    • ปัจจัยหลักในการทำงานของ Generative AI คือ Software สามารถทำนายคำสั่งไปได้อย่างต่อเนื่อง
    • Algorithm ของ Generative AI model ของ LLM คือ อ่านข้อมูลมากมายจากเว็บไซต์ อินเตอร์เน็ต และอ่าน textbook ในหลายภาษา
    • ทำนายคำสั่งเช่นคนถามอะไรมา มันจะพยายามทำนายคำสั่งที่คนจะถามต่อไป
    • เช่น ฉันชอบกินมะม่วง คำถัดไปที่น่าจะใช้ต่อไปคือ “ข้าว” , “เหนียว”
    ข้าวเหนียวมะม่วง

    หัวใจหลักของ Generative AI เครื่องมือคำนวณอันทรงพลังที่จะสามารถเรียนรู้และอ่านข้อความจำนวนมาก และเก่งในการทำนายคำถัดไป และทำแบบต่อไปซ้ำไปเรื่อยๆ


    • ยังอีกไกล มากกว่า 10 ปี หรือนานกว่านั้นจากความของคุณ Andrew Ng

    สิ่งท้าทายเกี่ยวกับ AGI คือ AI สามารถทำงานที่ใช้สติปัญญาที่ได้เหมือนมนุษย์ทำ

    • AGI สามารถขับรถยนต์แทนมนุษย์ได้ เขียนวิทยานิพนธ์ปริญญาเอกได้
    AGI สามารถขับรถยนต์แทนมนุษย์ได้ เขียนวิทยานิพนธ์ปริญญาเอกได้


    Question : อนาคตโมเดลภาษาขนาดใหญ่

    ความก้าวหน้าล่าสุดของ Large Language Model เกิดจาก AI ประเภทหนึ่งเรียกว่า Transformer Network ที่คิดโดย Google Brain

    • Transformer Network : โครงข่ายประสาทเทียมชนิดหนึ่งที่แปลงหรือเปลี่ยนลำดับ input เป็นลำดับ output โดยเรียนรู้บริบทความหมายของข้อมูล
    • State Space Model : การจำลองแบบปริภูมิสถานะ ที่ใช้คณิตศาสตร์อธิบายระบบการทำงาน
    • Diffusion Model : โมเคลประเภทหนึ่งที่ใช้ในการสร้างข้อมูลจำลอง (generative model)

    • ควรจะใช้เพื่อทบทวน ตรวจสอบและให้ข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ เพื่อปรับปรุงข้อความ

    Self-Reflection : กระบวนการทบทวน ประเมินและวิเคราะห์การกระทำของตนเองอย่างละเอียด

    Agentic Workflow 3 ขั้นตอน
    1. ปฏิบัติงาน
    2. ทบทวนตรวจสอบ
    3. ปรับปรุงคำที่ใช้
    • ตัวอย่าง เช่นการให้ AI เขียนโค้ด ตรวจสอบโค้ด และปรับปรุงโค้ด
    เช่นการให้ AI เขียนโค้ด ตรวจสอบโค้ด และปรับปรุงโค้ด
    • Reflection Workflow จะช่วยพัฒนา AI และมี Agentic Workflow ที่ซับซ้อนกว่านี้ด้วย

    • Generative AI ปัจจุบันทำได้ดีกว่าเดิม เมื่อเทียบกับ 6 เดือนที่แล้ว หรือ 2 ปีที่แล้ว

    ตัวอย่าง สิ่งที่ควรทำคือหากรณีเพื่อประยุกต์ใช้งานในธุรกิจให้ได้

    การจะทำให้เทคโนโลยีหรือเครื่องมือ AI ประสบความสำเร็จได้นั้น ต้องมีอีกส่วนที่ประสบความสำเร็จมากกว่า คือ การประยุกต์ใช้ที่สร้างเพิ่มขึ้นมา

    • สำหรับธุรกิจจำนวนมาก เป้าหมายของคุณ ไม่ควรจะแข่งขันกับคนสร้างเครื่องมือ AI แต่ควรเน้นไปกับการสร้างการใช้งานให้กับเครื่องมือ AI ต่างหากคือจุดที่สร้างมูลค่าได้มากที่สุด
    ควรเน้นการสร้างการใช้งานให้กับเครื่องมือ AI ต่างหากคือจุดที่สร้างมูลค่าได้มากที่สุด

    1. วันนี้คนทำงานภายในองค์กรทุกคนสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้อย่างมีนัยสำคัญด้วยการเรียนรู้การใช้ Generative AI
    • ควรจัดฝึกอบรมความรู้ให้พนักงานรู้เรื่อง Generative AI
    2. เรื่องผลกระทบต่อแรงงาน AI จะมาช่วยปรับการทำงานบางอบ่างให้เป็นอัตโนมัติแทนที่จะมาแทนที่ตำแหน่งงานทั้งหมดนั้นมีประโยชน์กว่า
    • AI มาแทน Task ไม่ใช่ Job
    3. AI อาจเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ได้ในบางอุตสาหกรรม
    • ถ้า AI สามารถใช้แรงงานแทนคนในอุตสาหกรรมได้ เราต้องคิดว่าจะต้องปรับตัวอย่างไรให้อยู่รอดในอุตสาหกรรมนั้นต่อไปได้
    ฝึกอบรมความรู้ให้พนักงานรู้เรื่อง generative AI

    AI มีโอกาสแทน task ได้ 30% แต่ job อีก 70% ก็ต้องทำอยู่ดี ดังนั้นตำแหน่งงานที่ไม่หายไปไหน


    AI ไม่ได้มาแทนที่คน แต่คนที่ไม่ใช้ AI ต่างหาก ที่จะมาแทนที่คนที่ไม่ใช้ AI

    Question : AI ไม่ได้มาแทนที่คน แต่คนที่ไม่ใช้ AI ต่างหาก ที่จะมาแทนที่คนที่ไม่ใช้ AI

    ควรให้ประชาชนฝึกอบรมให้คนมีทักษะการใช้ AI เพื่อให้ทุกคนสามารถเก้าไปข้างหน้าได้พร้อมกับ AI

    ความท้าทายเรื่อง AI ในการประยุกต์ใช้ในธุรกิจ

    ควรมีการฝึกอบรมเบื้องต้น แต่จะต้องเป็นงานที่ต้องให้คนรู้วิธีการทำงาน

    • ต้องประเมินก่อนว่า AI สามารถทำอะไรได้และไม่ได้บ้าง
    • การประเมินความยากในการสร้างรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติต่ำไป เนื่องจากการประเมินทางเทคนิคเรื่อง AI ว่าสามารถประเมินได้ถูกต้องมากกว่าผิดพลาดนั้น ไม่ได้ถูกต้องเสมอไป

    เช่นการประเมินด้านโลจิสติกส์หรือด้านสุขภาพต้องมีด้านเทคนิคดับ AI จึงบอกว่าไอเดียสามารถทำได้หรือไม่ได้อย่างแน่ชัด


    การประเมินด้านโลจิสติกส์

    ควรประเมินโครงการเพื่อหาความว่ามีโครงการที่ดีระดับ 10-15 โครงการ โดยการระดมสมองเป็นเรื่องสำคัญ ควรที่จะมีความรู้เฉพาะด้าน

    • ต้องมีผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงานไปรวมสมองกับผู้เชี่ยวชาญ AI เพื่อสร้างโครงการที่มีความคิดที่ดี
    • ถ้าวิเคราะห์โครงการมาแล้วจึงสามารถมั่นใจได้ว่า โครงการนี้คุ้มค่าแก่การลงทุนเพิ่มเติม

    กระบวนการทั้งหมดที่ดี ระดมสมอง ไอเดียเชิงลึก เพื่อเลือกโครงการที่มีศักยภาพมากที่สุด

    ระดมสมอง

    คำแนะนำในการหาพาร์ตเนอร์ด้าน AI

    คำแนะนำในการหาพาร์ตเนอร์ด้าน AI
    1. สิ่งที่ควรทำตอนนี้คือการลงทุนฝึกอบรมและการศึกษาอย่างต่อเนื่องเพื่อพัฒนาให้คนเรียนด้าน AI สามารถคิดค้นโครงการเกี่ยวกับ AI ที่มีประโยชน์ได้มากขึ้น
    2. ฝึกอบรมให้ผู้บริหารมีความรู้ AI ที่เกี่ยวข้องเชิงธุรกิจมากขึ้น เช่น คอร์ส Generative AI with everyone
    3. ช่วยให้ผู้นำธุรกิจมีความรู้เกี่ยวกับการประยุกต์ใช้ AI ในระดับที่ไม่ต้องใช้เทคนิคเยอะ

    หากมีผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านและมีความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับ AI ได้มารวมตัวและระดมสมองกันจะทำให้สามารถได้ไอเดียจำนวนมากเมื่อเทียบกับทรัพยากรที่มี


    ทักษะสำคัญที่ทำให้มนุษย์อยู่รอดในยุค AI

    1. การเรียนที่จะใช้ AI และการเรียนรู้ตลอดชีวิตเป็นทักษะที่สำคัญขึ้นเรื่อยๆ

    เราทำให้การเรียนรู้กลายเป็นกิจวัตรได้ จะทำให้เราก็จะอยู่เหนือเทรนด์ที่เข้ามาทั้งหมด

    2. ควรเรียนแบบทุกสัปดาห์ดีกว่าเรียนแบบหนักภายในสัปดาห์เดียว ทำแบบหกเดือนหรือตลอดชีวิต

    การมีทักษะเรียนรู้ตลอดชีวิตช่วยให้เราเป็นคนที่สร้างผลลัพธ์ได้ดีและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

    การมีทักษะเรียนรู้ตลอดชีวิตช่วยให้เราเป็นคนที่สร้างผลลัพธ์ได้ดีและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

    การร่วมงานกับ Amazon ในฐานะสมาชิกบอร์ดบริหารของ Andrew Ng

    1. มีการประชุมทางเทคนิคที่ควรใช้เวลา 1-2 สัปดาห์ถึงจะเคลียร์ได้ แต่ Andy Jessy ชวนคุยและภามคำถาม 2-3 จากนั้นก็จัดการเรื่องนั้นจบใน 10 นาที

    2. ทุกวันจะช่วยกันคิดว่าจะช่วยบริการลูกค้าแบบไหนให้ดียิ่งขึ้น

    3. ความต้องการที่จะสร้างตัวเลือกโมเดล AI และโมเดลภาษาขนาดใหญ่ให้เลือกใช้ นั่นเป็นสิ่งที่หลายคนอาจจะไม่ตระหนักว่ามีโมเดล AI ให้ใช้มากมายในโลก

    กลุ่มอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ ตอนนี้มีตัวประเมินผลจิ๋วอยู่ในสมาร์ทวอทช์ ซึ่งทรงพลังกว่าที่อยู่ในโทรศัพท์มือถือหรือในแล็ปท็อป มากกว่าที่ศูนย์ข้อมูล

    GPU (Semi-conductor industry)

    อนาคตการประมวลผลบนคลาวด์

    1. การนำ AI ไปใช้กับระบบประมวลผลบนคลาวด์ช่วยให้มีอนาคตที่ดีและมีปริมาณงานอีกมากทั่วโลก

    2. มีหลายธุรกิจที่ทำการย้ายขึ้นคลาวด์ ก็จะมีการเปลี่ยนแปลงด้านประสิทธิภาพความสามารถในการเข้าถึงข้อมูลระดับโลกของทีมที่ดีขึ้นจะจัดการปลอดภัยได้ง่ายขึ้น

    3. ประมวลผลข้อมูลจะถูกย้ายถิ่นฐานขึ้นไปที่คลาวด์ เห็นความสำคัญของการประหยัดค่าใช้จ่ายและการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน

    4. AI ต้องการข้อมูล โดยการนำข้อมูลที่คุณรู้ไปเก็บในที่เดียวกันหรือที่เล็ก จะกลายเป็นเรื่องจำเป็นสำหรับหลายธุรกิจ

    โครงสร้างการเก็บข้อมูลและทำให้ AI มีการต่อยอดในการใช้งานในด้านต่างๆ

    AI จะเป็นภัยคุกคามของมนุษยชาติหรือไม่

    • Andrew Ng ไม่เห็นด้วยแต่มองว่า AI เป็นเครื่องมือที่เยี่ยมมากในการใช้ทำสิ่งดีๆ

    AI สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้มากมาย เช่นในวงการแพทย์ การศึกษา และทางการเงิน

    • แต่ถ้าบางครั้งโชคร้าย ในบางโอกาสจะมีคนนำ AI ไปใช้ในทางที่ผิด
    • แต่ผู้ไม่หวังดีนำไปสร้าง deepfake ทางการเมืองเพื่อแทรกแซงการเลือกตั้ง

    Deepfake : เทคโนโลยีปลอมแปลงลักษณะบุคคลต่างๆ ด้วย AI ผ่านวิดีโอ ภาพถ่ายและการบันทึกเสียง


    การกำกับดูแลด้าน AI

    • ความผิดพลาดที่รุนแรงที่สุดของเรื่องหน่วยงานกำกับที่สังเกตเห็นได้กับการที่พยายามกำกับเกี่ยวกับเทคโนโลยีมากกว่าวิธีการใช้งาน อาจเป็นเทคโนโลยีอเนกประสงค์ เช่น เครื่องผลิตไฟฟ้านำมาสร้างเป็นรถไฟฟ้า เครื่องปั่นไฟฟ้า
    • งานที่มีประโยชน์ก็นำไปใช้กับสิ่งที่ไม่จำเป็น หรือสิ่งที่ทำให้เกิดปัญหาตามมาได้ในอนาคต
    ต้องพยายามทำให้คนไม่ควรนำการผลิตจากไฟฟ้า ไปใช้ในทางที่ผิด

    ควรเสนอทางกฎหมาย เกี่ยวกับการผลักดันความรับผิดชอบให้กับผู้สร้างโมเดล AI ให้มีใช้การใช้กับกิจกรรมที่ไม่ดี เพื่อให้สังคมในทางที่ดีขึ้น

    คนส่วนมากที่อยู่ในวงการเทคโนโลยี อยากจะทำเรื่อง AI ให้ถูกต้องตามกฎหมาย โดนทำอยู่ในพื้นฐานศีลธรรมและการเงิน


    AI จะช่วยแก้ไขปัญหาเรื่องความไม่เท่าเทียมทางสังคมหรือทางเศรษฐกิจ

    • มีเรื่องที่น่าสนใจว่าตอนที่เทคโนโลยีถูกสร้างขึ้นจะเพิ่มความไม่เท่าเทียมเพิ่มมากขึ้น
    • ถ้ามีเพียงกลุ่มคนบางคนที่เข้าถึงเทคโนโลยีจะไม่ช่วยเรื่องความเหลื่อมล้ำ แต่ต้องแพร่หลายกับเครื่องมือและการฝึกอบรมเพื่อช่วยลดความเลื่อมล้ำ
    • แต่ก่อน ตอนคนมีสมาร์ทโฟนและมีโปรแกรมค้นหาเว็บไซด์หรือการเข้ามาของโมเดลภาษาขนาดใหญ่จะทำให้ทุกคนเข้าถึงข้อมูลได้ดียิ่งขึ้นและสามารถสร้างประชาธิปไตย ถ้าฝึกให้ทุกคนใช้เครื่องมือและอบรม AI จะช่วยกระจายความรู้ให้คนในประเทศดีขึ้น จึงควรสร้างเทคโนโลยีให้มนุษย์มีพลังในการใช้ชีวิตมากขึ้น

    สิ่งที่แพงที่สุดในโลกปัจจุบันนี้ก็คือความเฉลียวฉลาด แต่ต้องใช้เวลานานในการฝึกฝนในฐานะคนๆหนึ่ง

    สิ่งที่แพงที่สุดในโลกปัจจุบันนี้ก็คือความเฉลียวฉลาด แต่ต้องใช้เวลานานในการฝึกฝนในฐานะคนๆหนึ่ง

    AI กับ การศึกษา

    • พิจารณาว่า AI จะส่งผลกระทบต่อการศึกษาและต่อวิชาต่างๆที่ไม่มี AI ด้วย
    • ปัจจุบันเริ่มมีการทำ AI TA (AI Teaching Assistant)
    Learning PathAI Teaching Assistant
    Khan AcademyKhanmigo
    CourseraCoursera Coach

    การลงทุนกับระบบการศึกษาและแนะนำนักเรียนว่าควรเรียนอะไรที่ดีกับการหางานและทำงานที่มีความหมายควรทำแบบไหน


    กูรูระดับโลกใช้ AI ในชีวิตประจำวันอย่างไรบ้าง

    • ทุกครั้งที่คุณใช้เว็บค้นหาข้อมูลนั่นคือ AI ไม่ว่าจะเป็นการอ่านรีวิวภาพยนตร์แนะนำมา หรือ ซื้อของออนไลน์นั่นคือการใช้ AI
    • Generative AI รวมถึง Chatbot ก็สามารถให้ช่วยทำงานให้เสร็จเร็วขึ้นและมีประสิทธิภาพดีขึ้น
    • ถ้าหากไม่มีอินเตอร์เน็ตจะสามารถเปิดโมเคลขนาดใหญ่ขึ้นมาทำบน Laptop ได้ หรือเปิดโมเดล open source เพื่อช่วยให้สามารถช่วยทำงานได้

    เว็บไซต์แนะนำ :

    1. https://blog.openlandscape.cloud/open-source

    2. https://stepstraining.co/analytics/large-language-models


    โดยสรุป AI ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในงานหลากหลายด้าน เช่น ธุรกิจ การศึกษา และการแก้ปัญหาสังคม ทำให้มนุษย์มีเวลาสำหรับงานสร้างสรรค์มากขึ้น ขณะเดียวกัน ความท้าทายคือการกำกับดูแลเพื่อให้การใช้งาน AI มีความรับผิดชอบและลดผลกระทบเชิงลบในระยะยาว

    หวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์กับทุกท่านที่รับชมครับ