- การเขียนจะเป็น Skill ที่สำคัญในอนาคตเนื่องจากคนเราต้องฟังข่าว อ่านหนังสือ พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดและความเห็นอยู่ตลอดเวลา แต่หากต้องการที่มีความจำในด้าน Skill ฟัง พูด และอ่านได้ จะต้องได้มี Skill การเขียนเพื่อตกผลึกทางความคิดครับ 😊😊😊
Table of content
- Core Skill for Writing
- Knowledge
- Writing is Thinking
- The Values of Writing
- Writing Gives You Free Traffic
- One-Person Business
- AI is Boring
- AI for writing
- Where Ideas Come From
- Creative Process
- Suddenly Talented
- Real Until You Love to Read
- Second Brain
- Essay Writing
- Where to Write
- Why Writing Helps Your SEO?
- 10 Ways to Improve Your Writing Today
- Four Eternal Markets
- Start Today With Recommended Reading and Writing
- My Personal Workflow
Core Skill for Writing
- การเขียนเป็นหนึ่งในทักษะที่สำคัญของยุคนี้
- คนเราจำเป็นต้องมีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเพื่อที่จะพัฒนาแนวคิดที่หลากหลายมากขึ้น
สามารถหาไอเดียการเขียนที่ดีได้จากการอ่านและตกผลึกทางความคิด

Knowledge
knowledge is conversational .
ยิ่งคนเราแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันมากเท่าไร ยิ่งได้ความรู้มากขึ้นเท่านั้น
- การที่มี Community ที่สามารถ share ความรู้ บทความ หนังสือ และคอร์สเรียนออนไลน์ จะทำให้มีไอเดียที่ดีและมีประโยชน์มากยิ่งขึ้น

Writing is Thinking
- การเขียนจะช่วยใช้เราคิดได้ดีขึ้น เพราะสามารถช่วยสื่อสารไอเดียผ่านข้อความได้ดีขึ้น
- การเขียนจะช่วยให้สร้างความเฉียบคมในการอ่าน เพราะต้องคิดข้อความก่อนเขียน
- การอ่านจะสามารถช่วยให้ความคิดคนเราเฉียบคมได้เยอะขึ้น
Read ———> Write ———> Take Action
Writing and Reading คือ Skill พื้นฐานที่ช่วยให้เราอยู่รอดในยุคถัดไปได้เลย
The Values of Writing
- การเขียนช่วยให้เรา focus การทำงานได้ดีขึ้น
- เรียนรู้เรื่องใหม่ๆ เข้าใจได้ง่ายขึ้น (
เรียน—>เขียน—>แชร์) - คนเราควรเปลี่ยน mode จาก consumer กลายเป็น creator เพิ่มขึ้น
- การเขียนคือการส่งต่อความรู้ teaching —> forces —> learning
- การเขียนทำให้เราตกผลึกความคิดตัวเอง เป็น spiritual practice รูปแบบหนึ่ง
impact เราเขียนเพื่อส่งต่อไอเดีย สร้างการเปลี่ยนแปลงบางอย่างในสังคม

Writing Gives You Free Traffic
- การเขียนและการคิดก็เปรียบเสมือนการสร้างเส้นทาง Traffic
- การเขียน content เพื่อให้คนสามารถเข้าถึง website ของเราได้ทุกเดือน หรือสามารถดึงดูดและสร้าง audience บน social media เติบโตแบบ organic ไม่ต้องใช้เงินสักบาท
Search Engine Optimization
การเขียนเนื้อหา ข้อมูลข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจและสินค้าขึ้นมาใหม่ ลงบนเว็บไซต์ของคุณ เพื่อให้แสดงอันดับต้นๆ ในหน้า Search Google โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย การที่จะทำให้เว็บไซต์ติดหน้าค้นหานั้นขึ้นอยู่กับ Keyword
ทักษะการเขียนคือ Leverage (พลัง) ที่สำคัญมากๆในโลกยุคนี้ ยิ่งเราเขียนเก่งเท่าไหร่ เรายิ่ง attract คนอื่นได้มากขึ้นเท่านั้น ใช้ AI เขียน ก็สู้เราเขียนเองไม่ได้ ถ้าเราฝึกฝนตัวเองทุกวัน
One-Person Business
- คำสอนในสาย One-Person Business คือ จงสร้าง “Traffic” ก่อน แล้วค่อยสร้างทุกอย่างหลังจากนั้น หมายถึงการจะทำธุรกิจให้รอด จำเป็นต้องมี Traffic ก่อนมี Product & Service
- ตัวอย่างของแบรนด์ที่มี product ดี แต่ธุรกิจไปไม่รอด มีให้เห็นทุกวัน ถ้ามีของดี แต่คนไม่รู้จักก็จบเลย (awareness problem) ถ้าลูกค้าไม่เคยเห็น แปลว่า “brand เราไม่มีอยู่จริง”
หลายธุรกิจไป “ไม่รอด” เพราะมัวแต่สร้างแต่ product ไม่สนใจ traffic ใดๆ

AI is Boring
- งานส่วนใหญ่ที่ AI ช่วยทำได้ดีงานประเภท Summarize ข้อมูล , Translate ข้อมูล , การเขียนสรุป PDF สรุปวีดีโอ YouTube แบบเร็วๆ ช่วย Brainstorm Ideas ใหม่ๆ หาข้อมูล Research Topics มาใช้เป็น reference งานเขียน
- AI ณ เวลานี้สามารถสรุปแทนได้ แต่ยังไม่สามารถเขียนแทนทั้งหมดได้เพราะยังขาดความเป็นเอกลักษณ์ในการเขียนแบบภาษาของแต่ละคนอยู่
AI เหมาะกับงานที่เน้น Quantity แต่ไม่ใช่ Quality “ความเร็วควรถูกใช้เวลาที่จำเป็นต้องใช้เท่านั้น” – Sean D’Souza

AI for writing
- Generative AI ที่สร้างสามารถช่วยเขียนและสร้างรูปภาพ
- Language Model เป็น Model ที่สามารถ Predict คำสั่งได้ ที่มีประโยชน์ที่สุดในโลก เช่น Chatgpt , Gemini , Claude, Co-pilot, Perplexity

- เราจะต้องสร้างผลงานขึ้นด้วยตัวเอง โดยให้ AI เป็นแค่ผู้ช่วยเท่านั้น
- AI จะช่วยยกระดับคนไม่เขียนไม่เก่งขึ้นมาเก่ง แต่สุดท้ายทุกคนควรฝึกเพื่อสร้างภาษาของตัวเอง
- นักเขียนระดับโลก ส่วนใหญ่มักเขียนได้ด้วยตัวเอง
คนเราควรจะมีหลาย Skill ด้วยตัวเอง ไม่ควรพึ่ง AI มากจนเกินไป
Where Ideas Come From
- ไอเดียส่วนใหญ่มักจากการอ่านหนังสือ 2 ร้าน Kinokuniya กับ Asiabook
- หนังสือที่ได้ควรอ่านให้ช้าลงเพื่อจะสามารถอ่านแบบเข้าใจ และหยุดอ่านเพื่อมาเขียนตกผลึกทางความคิดอีกที และสามารถสร้างไอเดียดีๆได้ด้วย
- ประสบการณ์ที่เจอคนเยอะๆก็ช่วยให้เราเก่งขึ้น และประสบการณ์จากหนังสือคนเขียนที่เก่งโดยได้ประสบการณ์ 10 ปี – 20 ปีย่อยความรู้มาอยู่ในหนังสือเล่มเดียว
Youtube เปรียบเสมือนมหาลัยที่สามารถไปหาความรู้ดีๆได้หากเลือก Channel ที่มีประโยชน์

Creative Process
- Creative Process คือการสรุปความข้อมูลเพื่อสร้างข้อมูลในรูปแบบใหม่ๆขึ้นมา
- มาจาก หนังสือ Second Brain ของ Tiago Forte
- Second Brain เป็น Application ที่ใช้ในการบันทึกข้อมูลทั้งแบบ Analog และ Digital
| Type | Definition |
| Analog | การบันทึกข้อมูลด้วยมือ เช่น Note |
| Digital | การบันทึกของผ่านอุปกรณ์เทคโนโลยี เช่น Notion, Obsidian and Evernote |
CODE Step การสรุปข้อความไปจนถึงการแชร์ข้อมูลต่อ
| Process | Definition |
| Capture | เริ่มจากการเก็บข้อมูลมาก่อน |
| Organize | เริ่มการจัดเรียงข้อมูล |
| Distill | ย่อยข้อมูลออกเป็นภาษาตัวเอง |
| Express | ต้องแชร์ผลงานที่ดีให้คนอื่นรับรู้ |
Copy and Paste ไม่เป็นการ Distill เพราะเป็น Plagiarism เลียนแบบผลงานคนอื่น
Suddenly Talented
แหล่งอ้างอิง :
Kasidis SatangmongkolSuddenly Talented วิธีพัฒนาตัวเองแบบเก่งปุบปับด้วย ECS Frame…
ถ้าคนเราอยากจะประสบความสำเร็จในด้านใดด้านหนึ่ง จำเป็นต้องเก่งกว่าค่าเฉลี่ยในหลายๆด้าน แต่ไม่จำเป็นต้องเก่งที่สุด (Generalist)
- บทความนี้จัดอยู่ในหมวด long form มีกระบวนการเขียนดังนี้
| Time | Process |
| 20 hours | capture + organize |
| 10 hours | distill + express final |
Real Until You Love to Read
Read what you love, until you love to read – Naval นักทวีต นักลงทุน Start up
Foundation Skill : https://www.eef.or.th/article-neet-foundation-skill
- Foundation Skill เป็น Skill ที่ให้เราสามารถเป็นอะไรในอนาคตก็ได้
- โดยเฉลี่ยมนุษย์เราสามารถอ่านได้ เร็วกว่า การฟังด้วย
- ถ้าอยากฝึกอ่าน ควรอ่านเรื่องที่ชอบวันละ 30-60 นาที

| Technique |
| 1. หยิบหนังสือที่ชอบ |
| 2. อ่านหนังสือทุกวัน |
| 3. สรุปแล้วแชร์ |
ควรอ่านหนังสือภาษาอังกฤษ ซื้อใน Kindle เนื่องจากสามารถเข้าใจความรู้ได้เร็วกว่าการรอแปล ทำให้ได้ความรู้ที่สดใหม่กว่า
- ประเภทหนังสือ
- Paperback เสียสายตาน้อยกว่า เรียบง่าย
- Ebook พกพาไปได้ทุกที่ ไม่ต้องกลัวยับ
Second Brain
- Forgetting curve คือ เวลาทำอะไรซักอย่าง ถ้าไม่จดเอาไว้จะลืมได้ง่ายมาก
- ถ้าเรารู้จักจดไปเรื่อยๆ 5-10 ปีข้างหน้า จะสร้าง THE COMPOUND EFFECT
THE COMPOUND EFFECT สะสมความรู้ไปเรื่อยๆ สร้างความสำเร็จให้ทวีคูณ

ต้องพยายามจด Note ลงใน Second Brain เพื่อช่วยจำได้มากขึ้น
Essay Writing
| Type | Definition |
| Short Form | เขียนบน Social media เพื่อสรุปย่อเล็กน้อย |
| Long Form | เขียนบท Website เพื่อให้คนอ่านบทความ 10-15 นาที |
การเขียนและอ่านเพื่อตกผลึก จะทำให้สามารถจดจำดีขึ้นกว่าการอ่านหนังสืออย่างเดียว
- Bloom’s Taxonomy เป็น framework สำหรับการเรียนและสร้างองค์ความรู้ใหม่ มี 6 ขั้นตอน
เรียนรู้ที่สำคัญมีอยู่ 3 เทคนิค คือ Analyze, Evaluate, Create
วิธีการเขียนที่ถูกต้องคือการเขียนแบบ paraphrase เป็นภาษาของตัวเอง และมีการอ้างอิงที่ถูกต้อง
Where to Write
| Type | Definition |
| Social Media | เขียน Short form สรุปเป็นข้อๆ อ่านจบ ภายใน 1-2 นาที |
| Website | เขียน Long form อ่านจบ 10-15 นาที |
- สามารถแบ่งการเขียนได้เป็น 3 ส่วน Introduction, Body and Summary
- website ขอแค่ทำถูกตามกฎ google search ก็สามารถอยู่นานได้เพราะมี market share 90 กว่า%
google search ถ้าเว็บไซต์ดี มี Content ดีก็สามารถทำให้ website เลื่อนลำดับดี แล้วไปเจอใน google search ได้ง่ายขึ้น

Why Writing Helps Your SEO?
- SEO ย่อมาจาก Search Engine Optimization คือการปรับปรุงเนื้อหาบนหน้าบล็อกให้ดีขึ้น โดยที่เราเขียนให้มีอันดับที่ดีขึ้น ถ้าอยู่อันดับ 1-3 ในหน้าแรกของ Google Search Results โดยไม่นับ Sponsored
core principles ของการทำ SEO คือการสร้าง content ที่ดี ทักษะการเขียนจึงสำคัญมากๆ

ยิ่งเราเขียนเก่งขึ้นเท่าไหร่ website ของเรายิ่งไต่อันดับได้ดีขึ้นเท่านั้น
- เน้นคุณภาพมากกว่าปริมาณ เขียนแบบ Long-Form
- เลือก keyword ให้เหมาะสม เป็นเรื่องที่เราสนใจจริงๆ และมีคนรออ่านสิ่งนั้นอยู่
- ส่วนปัจจัยอื่นๆ เช่น web โหลดเร็ว รูปสวย โหลดไว อันนี้ optimize ได้ไม่ยาก อย่างเว็บหลักใช้ wordpress.com แทบไม่ต้อง optimize อะไรเลย มันเร็วตั้งแต่เกิดแล้ว
ถ้าเราเขียนเก่ง แต่จะยากมากถ้าเราเขียนไม่เป็น AI ก็ช่วยเราไม่ได้ (Quality > Quantity)
Website Builder อื่นๆที่คนนิยมใช้กัน เช่น ตาม toggle list ด้านล่าง
- Wix
- Webflow
- Squarespace กำลังมาแรง Creators ต่างประเทศชอบกันมาก
- Medium นิยมสำหรับเขียนบทความเช่นกัน แต่แอดว่าเรื่อง Customization กับ SEO สู้ WordPress ไม่ได้เลย 💕💕
- Ghost สำหรับเขียน blog + newsletter
10 Ways to Improve Your Writing Today
1. Copy something – ถ้ายังไม่รู้จะเขียนอะไร ลอง Copy & Paste บทความที่เราชอบ มานั่งศึกษาว่าทำไมผู้เขียนถึง “เลือกใช้” คำและประโยคแบบนั้น
2. Keep a journal – จดบันทึกความคิด ไอเดีย และเรื่องราวต่างๆที่เราเจอในแต่ละวัน รูปแบบการเขียน Journal ที่ดีที่สุด คือแบบที่เรา ”สร้าง” มันขึ้นมาเอง
3. Talk about what you’re writing – เล่าให้คนอื่นฟังว่าเรากำลังเขียนอะไรอยู่ เพราะ “Knowledge is conversational” เพื่อนๆรอบตัวเราอาจมี Insights ที่ช่วยให้เราเขียนเรื่องนั้นดีขึ้นก็ได้
4. Touch your toes – ออกกำลังกายก่อนเขียน อ่านไม่ผิด 555+ ให้เลือดสูบฉีด เอา Oxygen ไปเลี้ยงสมอง อะไรที่ดีกับหัวใจดีกับสมองเสมอ
5. Do writing exercises – ฝึกเขียนด้วยเทคนิค ”Free Writing” คิดค้นโดย Peter Elbow ในปี 1973 เป็นการเขียนที่ปลดล็อคความคิด ไม่มีข้อจำกัดใดๆ เหมือนการ ”Warm Up” ก่อนเขียนงานหลักของเรา
6. Organize your material – รวบรวมและจัดเรียงข้อมูลเพื่อสร้าง Story ที่เราอยากเล่า Gary แนะนำ “ให้เก็บมากกว่าที่เราจำเป็นต้องใช้” ยิ่งมี Input มากเท่าไหร่ เรายิ่งเขียนได้ง่ายขึ้นเท่านั้น
7. Make a list – เขียนลิสต์สิ่งสำคัญที่เราอยากจะ Cover ในบทความ สร้าง Outline ง่ายๆ เช่น สิ่งที่เราอยากให้ผู้อ่านได้รับ Key Message, Questions และ Takeaways
8. Picture a reader – นึกถึงหน้าผู้อ่านอยู่ตลอดเวลา นึกภาพเค้านั่งอ่านอยู่ข้างเรา อย่าใช้คำศัพท์ที่ทำให้เค้าหันมาถามเราว่า “ประโยคเมื่อกี้แปลว่าอะไร”
9. Ask yourself why – ถ้าเราตอบไม่ได้ว่าเราจะเขียนงานนั้นไปเพื่ออะไร อย่าเสียเวลาเขียนเลย ทุกงานเขียนต้องมีหนึ่ง “Job to be done” เสมอ เช่น ทำให้คนหัวเราะ ซื้อของ ร้องไห้ หรือได้ความรู้ ฯลฯ
10. Write a Strong Beginning คนจะกดอ่านหรือไม่อ่านบทความที่เราเขียน 99.99% อยู่ที่ชื่อ “Title” และ “Paragraph” ย่อหน้าแรก
- เราออกแบบ Title หรือ Headline เพื่อทำให้คนหยุดอ่าน
- ส่วน First Paragraph ทำให้เค้าอยากอ่านต่อ ย่อหน้าถัดๆไป
- ถ้าเขียน Title ดีมาก แต่เนื้อหาข้างในไม่มีประโยชน์ใดๆ แบบนี้เรียก “Clickbait” อย่าหาทำ 555+
แค่ใช้ 10 วิธีที่ อ. Gary สอน งานเขียนเราจะทรงพลังขึ้นทันที ในหนังสือมีอีก 90 วิธีรอให้ทุกคนไปศึกษาต่อ อยากเขียนเก่ง ต้องอ่านเลย หนังสือดีต้องมีติดเชลฟ์
Four Eternal Markets
- Eternal Markets คือตลาดที่ไม่มีวันดับและเป็นสิ่งที่คนเราจะสนใจไปตลอด

Start Today With Recommended Reading and Writing
| Author | Recommend book |
| Gary Provost | 100 Ways to improve your writing (2019) |
| Joao Batalheiro Ferreira | Writing Is Not Magic, It’s Design (2024) |
| William Zinsser | On Writing Well (2012) |
| William Zinsser | Writing to Learn (2013) |
| Tiago Forte | Building A Second Brain (2022) |

On Writing Well ของ อ. William Zinsser คือที่สุด เรียกว่าระดับตำนานของแทร่ เขียนยังไง สไตล์ไหน ให้เข้าถึงใจผู้อ่าน เป็นเล่มที่คิดว่าต้องอ่านๆซ้ำ จะดีมากถ้าได้อ่านทุกปี
- วิธีการเริ่มเขียนเบื้องต้นก็สามารถเริ่มได้จากการฝึกเขียนส่วนตัว แบบ Short form , Long form เปิดเว็บไซต์
My Personal Workflow
ใช้ database table เป็นอุปกรณ์พิเศษที่ช่วยในการจัดการว่ามี list อะไรสำคัญบ้าง เช่น Episode, Date, Tag, Content, URL, Status
การมีอุปกรณ์ที่ดีในการช่วยเขียน สามารถช่วยให้เราเขียนงานได้ดีขึ้นหลายเท่า เช่น Notion เป็น software หลักในการสร้าง digital second brain ประยุกต์ใช้ CODE method รัวๆ
| Type | Definition |
| Episode | ตอนที่, บทที่ |
| Date | วันที่ |
| Tag | ประเภทของบทความ |
| Content | ชื่อบทความหรือหนังสือ |
| URL | link หนังสือหรือเว็บไซต์ |
| Statue | สถานะว่าทำเสร็จหรือยัง |
A Very Normal Daily Routine
ตารางชีวิตแอดทอยจะประมาณนี้ๆ มีคลาดเคลื่อนบ้างนิดหน่อย Cheat Day 555+
- ตื่นนอน ช่วงตี 5-6 โมงเช้า
- Review สิ่งที่ต้องทำในวันนั้น นั่งอ่าน content เขียน content เสร็จก่อน 9 โมง
- ช่วง 9.00 – 16.00 น. ส่วนใหญ่ก็ standby ทำงานประจำ ไปสอนตามบริษัทต่างๆ
- กินข้าว อาบน้ำ แต่ยังไม่นอน 🤣 555+
- ช่วง 21.00 – เที่ยงคืน มีอ่านหนังสือต่อบ้าง ช่วงนี้เหมือนจะอ่านได้ทั้งเช้า ค่ำเลย ตั้งแต่ทำ PodDash เขียนมา 20 วันติดกัน สร้างนิสัยใหม่ เริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงในชีวิตแล้ว
- แนวทางที่จะทำให้ชีวิตดีขึ้นของแอดทอย
- แล้วควรอ่านหนังสือเยอะไหม? เอาจริงๆแค่วันละ 1 ชั่วโมงเอง ส่วนตัวคิดว่าไม่ได้อยู่ที่ชั่วโมงการอ่าน แต่อยู่ที่ว่าเรา “อ่านอะไร”
- สิ่งที่เราเอาเข้าสมอง สำคัญมาก ต้องกรองเยอะๆ – You are what you read (& consume).
วิธีการที่ดีคือ “อ่านหนังสือดีๆหนึ่งเล่ม > หนังสือไม่ดี 100 เล่ม” แต่คำว่าดี มันตีความได้ยาก แต่ละคนมีไม้บรรทัดไม่เท่ากัน เวลาจะซื้อหนังสือบน Amazon ควรสังเกต 2 สิ่งนี้
- เนื้อหาตอบโจทย์ชีวิตเรา ณ เวลานั้นๆหรือเปล่า
- Review บน Amazon ว่าหนังสือเล่มไหนมีคนรีวิวมั้ย
หวังว่าความรู้สำหรับงานเขียนจะเป็นประโยชน์ต่อทุกคนครับ
https://data-science-bootcamp1.teachable.com/courses/enrolled/2634403

Leave a comment